ธปท.เผยเศรษฐกิจ มิ.ย.66 ฟื้นตัว รับอานิสงส์ภาคท่องเที่ยวปรับดีขึ้น

ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยเศรษฐกิจไทยในเดือน มิ.ย.2566 อยู่ในทิศทางฟื้นตัว โดยภาคการท่องเที่ยวปรับดีขึ้นตามจำนวนนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ รวมทั้งมูลค่าการส่งออกสินค้าที่ไม่รวมทองคำปรับเพิ่มขึ้นจากสินค้าเกษตรเป็นสำคัญ ขณะที่การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมทรงตัว สอดคล้องกับการผลิตภาคอุตสาหกรรม สำหรับการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนปรับลดลงหลังจากเร่งไปแล้วในเดือนก่อน ส่วนการใช้จ่ายภาครัฐหดตัวจากทั้งรายจ่ายประจำและรายจ่ายลงทุน

ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปลดลงจากหมวดอาหารสดเป็นสำคัญ ตามราคาเนื้อสุกรและผักสด เนื่องจากมีผลผลิตออกสู่ตลาดมากขึ้น ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานลดลง จากผลของฐานสูงในราคาอาหารสำเร็จรูปและเครื่องประกอบอาหารเป็นสำคัญ ด้านตลาดแรงงานยังฟื้นตัว สะท้อนจากจำนวนผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมที่เพิ่มขึ้น

สำหรับดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลจากดุลการค้าที่ปรับดีขึ้น ประกอบกับดุลบริการ รายได้ และเงินโอนขาดดุลลดลง ตามการส่งกลับกำไรและรายจ่ายทรัพย์สินทางปัญญาที่ลดลงจากเดือนก่อน ด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทเทียบกับดอลลาร์สหรัฐเฉลี่ยอ่อนค่าลง ตามค่าเงินหยวนที่อ่อนค่า หลังจากตัวเลขเศรษฐกิจจีนออกมาอ่อนแอกว่าที่ตลาดคาด

ในส่วนของในไตรมาส 2/2566 เศรษฐกิจไทยปรับดีขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาสก่อน โดยจำนวนนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติปรับเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ภาคบริการและการบริโภคภาคเอกชนขยายตัว การลงทุนภาคเอกชนปรับดีขึ้น ส่วนหนึ่งจากการลงทุนในอุตสาหกรรมใหม่

ด้านมูลค่าการส่งออกสินค้าที่ไม่รวมทองคำเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากสินค้าเกษตรเป็นสำคัญ ขณะที่การผลิตภาคอุตสาหกรรมลดลง จากการผลิตยานยนต์และหมวดอาหารและเครื่องดื่มเป็นหลัก ส่วนการใช้จ่ายภาครัฐหดตัว จากรายจ่ายประจำของรัฐบาลกลางและการลงทุนรัฐวิสาหกิจ

ทางด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปและอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานลดลง จากผลของฐานสูงในปีก่อน ประกอบกับเงินเฟ้อในหมวดพลังงานลดลง ขณะที่ตลาดแรงงานฟื้นตัวต่อเนื่องตามภาวะเศรษฐกิจ สำหรับดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุล จากการส่งกลับกำไรและรายรับด้านการท่องเที่ยวที่ลดลงตามฤดูกาล ประกอบกับดุลการค้าเกินดุลลดลง

LATEST NEWS

“TRUE” เผยงบ Q3/2567 กำไรหลังปรับปรุง 3,100 ล้านบาท พร้อม EBITDA เติบโตต่อเนื่อง 7 ไตรมาส

บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) รายงานผลประกอบการไตรมาส 3/2567 เผยมีกำไรต่อเนื่อง โดยมีกำไรสุทธิหลังหักภาษีและหลังปรับปรุงรายการพิเศษ (Normalized Net Profit After Tax) ที่ 3.1 พันล้านบาท EBITDA ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นไตรมาสที่ 7 ติดต่อกัน โดยมีปัจจัยหลักจากการลดลงของค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานจากการมุ่งเน้นผลการดำเนินงานและประสิทธิภาพที่ดีขึ้น พร้อมการรับรู้ผลประโยชน์จากการควบรวม (Synergy)

SCB WEALTH ส่ง TTARGET8M1 นำร่องโครงการ No Gain No Pay จับจังหวะดีหุ้นไทยพุ่ง หนุนกองทุนทริกเกอร์ถึงเป้าหมายแล้วเพียง 1 เดือน 13 วัน

SCB WEALTH ได้คัดสรรผลิตภัณฑ์การลงทุนร่วมกับบลจ.ทิสโก้ส่งกองทุน TTARGET8M1  โดยมีธนาคารเป็นตัวแทนจำหน่ายเพียงรายเดียว นำร่องโครงการ No Gain No Pay  ที่จะไม่เก็บค่าธรรมเนียมหากกองทุนไม่ถึงเป้าหมายภายในระยะเวลาที่กำหนด TTARGET8M1 เน้นลงทุนตลาดหุ้นไทยที่จับจังหวะการลงทุนดีหนุนกองทุนถึงเป้าหมายเร็วกว่าคาดใช้เวลาเพียงแค่ 1 เดือน 13  วันเท่านั้นจากระยะเวลาที่กำหนดไว้ประมาณ 8 เดือน SCB WEALTH จะมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ตอบโจทย์ให้กับลูกค้าในแต่ละช่วงเวลาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ได้รับผลประโยชน์ด้านการลงทุนพร้อมเพิ่มโอกาสสร้างความมั่งคั่งในพอร์ตลงทุนได้ในทุกภาวะตลาด  ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆของธนาคารที่ร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจโดยมีสัญลักษณ์ของ No Gain No Pay จะมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ออกมาอย่างต่อเนื่องหากมีภาวะการลงทุนที่เหมาะสมเพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับลูกค้าของธนาคาร 

RELATED