BEYOND โชว์ 2Q23 ผลงานแกร่ง กำไรต่อเนื่อง 3 ไตรมาส-รายได้รวมทะลุ 931 ลบ. 

BEYOND โชว์ฟอร์มผลงานไตรมาส 2/2566 แกร่ง! กำไรสุทธิ 205 ล้านบาททำสถิติกำไรต่อเนื่อง 3 ไตรมาส รายได้โรงแรมโตก้าวกระโดดอานิสงค์ต่างชาติแห่เที่ยวไทยหนุนรายได้ห้องพักเฉลี่ยหรือ RevPAR เติบโต 133% ส่งซิกครึ่งปีหลังสดใสต่อเนื่องหนุนภาพรวมทั้งปีคาดรายได้ทะลุเป้า 2,800 ล้านบาทเดินหน้าเพิ่มศักยภาพ 2 โรงแรมเน้นส่งมอบประสบการณ์ใหม่ที่แตกต่างเหนือความคาดหมายตอกย้ำความเป็นผู้นำกลุ่มโรงแรมระดับ Ultra-Luxury 

นาง กมลวรรณ วิปุลากร กรรมการผู้จัดการ บริษัทเบาด์แอนด์บียอนด์จำกัด (มหาชน) หรือ BEYOND ผู้ประกอบธุรกิจลงทุนพัฒนาและดำเนินธุรกิจโรงแรมและบริการระดับ Ultra-Luxury แนวหน้าของเมืองไทย เปิดเผยถึงภาพรวมผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2 ปี 2566 ว่า บริษัทมีกำไรสุทธิจำนวน 205 ล้านบาท ทำสถิติมีกำไรต่อเนื่อง 3 ไตรมาส นับตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 2565 ส่งผลให้ภาพรวมครึ่งแรกของปี 2566 บริษัทมีกำไรสุทธิจำนวน 222 ล้านบาท พลิกจากขาดทุน 286 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันปีก่อน ตอกย้ำเป้าหมาย Road to Profitability 

บริษัทมีรายได้รวมงวดไตรมาส 2/2566 จำนวน 931 ล้านบาท เติบโตก้าวกระโดดจากช่วงเดียวกันปีก่อน 106% โดยโรงแรมทั้ง 2 แห่ง คือ โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ กรุงเทพฯ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา และโรงแรมคาเพลลา กรุงเทพ มีรายได้รวม 610 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 37% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน หนุนภาพรวมครึ่งปีแรกของธุรกิจโรงแรมที่มีรายได้เติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 84% แตะ 1,422 ล้านบาท ส่งผลจากอัตราการเข้าพัก (Occupancy Rate) และค่าห้องพักเฉลี่ย (ADR) ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก ในช่วงครึ่งปีแรก และหนุนรายได้ห้องพักเฉลี่ย (RevPAR) ให้เติบโตกว่าเท่าตัว และธุรกิจโรงแรมยังมีอัตราทำกำไรที่สูงขึ้นกว่า 10% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นมาจากศักยภาพทางการแข่งขันของโรงแรมทั้ง 2 แห่ง ที่ได้รับการยอมรับจากลูกค้าทั้งไทยและต่างชาติและติดอันดับโรงแรมชั้นนำของประเทศไทยทั้งในส่วนของห้องพัก ร้านอาหาร และงานจัดเลี้ยงตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ (MICE)

นอกจากนี้ บริษัทยังได้มีการรับรู้กำไรจำนวน 317 ล้านบาท จากการจำหน่ายที่ดินอันเป็นทรัพย์สินจากธุรกิจเดิม ในจังหวัดระยอง ภายใต้กลยุทธ์ Asset Monetization หรือการสร้างรายได้จากสินทรัพย์ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้านการเงิน และรองรับแผนการขยายงานในอนาคต กระแสเงินสดจากการขายดินดังกล่าว ส่งผลให้ ณ สิ้นไตรมาส 2 บริษัทมีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดรวมกว่า 1,215 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 73% เทียบจาก ณ สิ้นปี 2565 

นางกมลวรรณ กล่าวเพิ่มเติมว่า แนวโน้มผลงานช่วงครึ่งหลังของปี 2566 สดใสต่อเนื่อง ผลักดันภาพรวมรายได้รวมทั้งปีเติบโตทะลุเป้า 2,800 ล้านบาท ที่ได้คาดการณ์ไว้ตั้งแต่ต้นปี ตามการเติบโตที่ดีของภาพรวมอุตสาหกรรมฯ โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยปี 2566 ไว้ที่ 25-30 ล้านคน และจากการที่บริษัทเร่งเดินหน้าพัฒนายกระดับศักยภาพโรงแรมทั้ง 2 แห่ง ด้วยการชูจุดแข็งด้านคุณภาพบริการระดับพรีเมี่ยม มุ่งเน้นส่งมอบประสบการณ์ใหม่ที่แตกต่างเหนือความคาดหมาย ภายใต้วิสัยทัศน์ “Inspiring new ways to experience the world” หรือการสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดการสัมผัสโลกในมิติใหม่ๆ ที่น่าตื่นเต้นและน่าประทับใจมากยิ่งขึ้น เพื่อตอกย้ำการเป็นผู้นำกลุ่มโรงแรมระดับ Ultra-Luxury 

ทั้งนี้ ล่าสุดโรงแรมคาเพลลา กรุงเทพ ติดอันดับ 5 ของโรงแรมที่ดีที่สุดในโลก และติดอันดับ 1 ของโรงแรมที่ดีที่สุดในประเทศไทย จากการจัดอันดับของ “ลา ลิสเต้ (La Liste)” ผู้จัดอันดับร้านอาหารและโรงแรมจากประเทศฝรั่งเศส รวมทั้งยังได้รับรางวัลอันดับ 1 ของกลุ่ม Best Hotel General Manager in Thailand จากเวทีประกาศรางวัล Luxury Awards Asia Pacific 2023 ของนิตยสาร Travel + Leisure Luxury South East Asia และเป็น 1 ใน 3 โรงแรมในประเทศไทย ที่ได้รับรางวัล Forbes Travel Guide Star Award Winners 2023 ในระดับเทียร์ 5 ดาว ทั้งกลุ่มโรงแรมและห้องสปา 

ขณะที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ กรุงเทพฯ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ติดอันดับ 6 ของโรงแรมที่ดีที่สุดจากลา ลิสเต้ และติดอันดับ 5 จากกลุ่ม Best City Hotel in Thailand จากเวทีประกาศรางวัล Luxury Awards Asia Pacific 2023 ของนิตยสาร Travel + Leisure Luxury South East Asia นอกจากนี้ BKK Social Club ซึ่งเป็นบาร์ชื่อดังของโรงแรม ยังคงได้รับการจัดอันดับเป็นที่ 1 ของบาร์ในประเทศไทย และติดอันดับ 3 บาร์ที่ดีที่สุดในเอเชีย จาก Asia’s 50 Best Bar 

LATEST NEWS

NER พร้อมรับศักราชใหม่ปี 2568 เติบโตอย่างยั่งยืน

นายชูวิทย์ จึงธนสมบูรณ์ (ที่ 5 จากซ้าย) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ “NER”  ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายยางแผ่นรมควัน ยางแท่ง และยางผสม เพื่อจำหน่ายไปยังผู้ผลิตในอุตสาหกรรมยานยนต์ กลุ่มผู้ค้าคนกลาง ทั้งในและต่างประเทศ

ORI โชว์ Backlog แกร่ง 47,329 ล้านบาท รอรับรู้รายได้ต่อเนื่อง 5 ปี พร้อมเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่ 10 – 11, 13 กุมภาพันธ์ 2568 นี้ให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป ชูอัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.50 -5.15% ต่อปี

บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI พร้อมเสนอขายหุ้นกู้ให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไปและผู้ลงทุนสถาบันจำนวน 3 รุ่นอัตราดอกเบี้ย 4.50 – 5.15% จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือนเสนอขายระหว่างวันที่ 10 – 11 และวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 ผ่าน 9 สถาบันการเงินได้แก่ธ.ซีไอเอ็มบีไทยบล. เอเซียพลัสบล. ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) บล.บลูเบลล์บล.โกลเบล็ก บล.ยูโอบีเคย์เฮียน บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) บล.พาย และบล.เมอร์ชั่นพาร์ทเนอร์ พร้อมโชว์ Backlog ในมือ 47,329 ล้านบาท รอรับรู้สร้างรายได้ต่อเนื่อง 5 ปี เตรียมโอนกรรมสิทธิ์โครงการคอนโดก่อสร้างแล้วเสร็จใหม่ปี 2568 เพิ่มอีก 13 โครงการมูลค่าโครงการรวม 17,180 ล้านบาท มีแบ็คล็อกเฉลี่ยแล้วกว่า 70%

RELATED