NER รายได้ Q1/66 โต 661 ล้านบาท จากคำสั่งซื้อทั้งในและต่างประเทศเพิ่มขึ้น ตอกย้ำปี 2566 ขยายตลาดกลุ่มลูกค้า รองรับโรงงานแห่งที่ 3

บมจ.นอร์ทอีส รับเบอร์ (NER) แจ้งงบไตรมาส 1 ปี 2566 รายได้จากการขายรวม 6,254.40 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 661.79 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น 11.83% กำไรสุทธิเท่ากับ 314.38 ล้านบาท ลดลง 154.51 ล้านบาทหรือลดลง 32.95% จากราคาขายเฉลี่ยลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน สำหรับการเติบโตอีก 9 เดือน มุ่งเน้นการขยายตลาดต่างประเทศ ทั้งในประเทศจีน สิงคโปร์ อินเดีย และไทย เพื่อรองรับแผนการขยายโรงงานยางแท่งและยางผสมแห่งที่ 3 กำลังการผลิต 172,800 ตัน

นายชูวิทย์ จึงธนสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NER ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายยางแผ่นรมควัน ยางแท่ง และยางผสม เพื่อจำหน่ายไปยังผู้ผลิตในอุตสาหกรรมยานยนต์ และกลุ่มผู้ค้าคนกลาง ทั้งในและต่างประเทศ เปิดเผยภาพรวมผลการดำเนินงานสำหรับไตรมาส 1/2566 สำหรับงวด 3 เดือน สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2566 เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน มีปริมาณขาย 127,574 ตัน เพิ่มขึ้น 31,224 ตัน หรือเพิ่มขึ้น 32.41% คิดเป็นรายได้จากการขายรวม 6,254.40 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 661.79 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น 11.83% แบ่งเป็นรายได้จากการขายในประเทศ 3,918.08 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 63% ของยอดขายรวม และรายได้จากการขายต่างประเทศ 2,336.32 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 37% ของยอดขายรวม

สำหรับรายได้จากการขายไตรมาส 1/2566 ที่เพิ่มสูงขึ้นเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนนั้น เป็นการเพิ่มขึ้นด้านปริมาณขาย เกิดจากบริษัทได้รับคำสั่งซื้อของลูกค้าทั้งในและต่างประเทศเพิ่มขึ้น ซึ่งคิดเป็นผลต่างเพิ่มขึ้นด้านปริมาณอยู่ที่ 1,801.48 ล้านบาท และผลต่างด้านราคาที่ปรับตัวลดลงอยู่ที่ 1,141.32 ล้านบาท เกิดจากผลต่างราคาขายเฉลี่ยลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนโดยลดลง 15.56% ส่งผลให้ 3 เดือนแรกของปี 2566 บริษัทมีกำไรสุทธิเท่ากับ 314.38 ล้านบาทหรือคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 5.03% ของยอดขายรวม โดยเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2565 อัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 8.38% บริษัทมีกำไรสุทธิลดลง 154.51 ล้านบาทตามกำไรขั้นต้นที่ลดลง

นายชูวิทย์ กล่าวเพิ่มเติมถึงเป้าหมายการเติบโตปี 2566 ว่าบริษัทยังมุ่งเน้นการขยายตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันบริษัทมีการเซ็นสัญญากลุ่มลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นอีกหลายรายทั้งในประเทศจีน สิงคโปร์ อินเดีย และไทย เพื่อให้บริษัทมียอดขายเติบโตเป็น 500,000 ตันตามเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งเติบโตจากปีที่แล้วที่มียอดขาย 446,090 ตัน โดยการเติบโตมาจากการเปิดประเทศของจีนที่ผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจ และความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าที่มีการแข่งขันทำให้ความต้องการรถยนต์ไฟฟ้ามีแนวโน้มเติบโตเพิ่มมากขึ้น

โดยบริษัทยังเดินหน้าขยายกำลังการผลิตสินค้าประเภทยางแท่งและยางแท่งผสม โดยการลงทุนก่อสร้างโรงงานยางแท่งและยางผสมแห่งที่3 กำลังการผลิต 172,800 ตัน ใช้งบลงทุนประมาณ 700 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างการปรับปรุงที่ดิน ซึ่งคาดว่าโรงงานจะสร้างเสร็จและเริ่มมีรายได้ในปี 2567 ซึ่งภายหลังจากการขยายกำลังการผลิตดังกล่าว บริษัทจะมีกำลังการผลิตสินค้ารวมทั้งสิ้น 688,400 ตันต่อปี

นอกจากนี้ บริษัทยังมุ่งมั่นที่จะลดต้นทุนการผลิตในการดำเนินงาน เนื่องจากการขยายกำลังการผลิตทำให้เกิดการประหยัดต่อขนาด (Economic of Scale) ทำให้บริษัทสามารถบริหารจัดการต้นทุนต่างๆ ภายในโรงงานได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงจะมีการนำพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้ภายในโรงงานแห่งที่ 3 เพื่อลดต้นทุนพลังงานเพิ่มเติมด้วย

LATEST NEWS

SCB CIO มอง 3 ปัจจัยเสี่ยงทำโลกผันผวน แนะลงทุนแบบ Stay Invested จัดพอร์ตรอรับผลเลือกตั้งสหรัฐฯ

SCB CIO แนะจับตา 3 ปัจจัยหลักทำตลาดการเงินผันผวนในเดือนตุลาคมนี้ มองตลาดหุ้นสหรัฐมีโอกาสปรับฐาน ช่วงก่อนการเลือกตั้ง และมีแนวโน้มปรับขึ้นหลังทราบผลการเลือกตั้ง แนะใช้กลยุทธ์ Stay Invested หาจังหวะลงทุน

GC เชิญร่วมงาน GC Sustainable Living Symposium 2024 ตอกย้ำ “ยั่งยืนไม่ยาก” Hybrid Event รวมพลคนหัวใจยั่งยืนเสวนาและนิทรรศการ 18 ตุลาคม 2567 นี้

บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC ขอเชิญคนหัวใจรักษ์โลก (GEN S: Generation Sustainability) ทุกวัย ทุกอาชีพ มาร่วมกันหาคำตอบของการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืนในงาน GC Sustainable Living Symposium 2024: GEN S GATHERING ในรูปแบบ Hybrid Event ทั้ง On Ground และ Online ภายใต้แนวคิด “ยั่งยืนไม่ยาก”  พบกับการเสวนาเปิดมุมมองธุรกิจสู่ความยั่งยืนอย่างรอบด้านและขับเคลื่อนประเทศไทยสู่เป้าหมาย Net Zero โดยผู้นำจากทุกภาคส่วน ชมนิทรรศการนวัตกรรมที่คิดเพื่อโลก และแลกเปลี่ยนไอเดียสร้างสรรค์จุดแรงบันดาลใจกู้โลกเดือด เป็นประโยชน์สำหรับทั้งภาคธุรกิจและการใช้ชีวิตที่จะทำให้เรื่องของความยั่งยืนไม่เป็นเรื่องยากอีกต่อไป ที่พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 สยามพารากอน ในวันที่ 18 ตุลาคม 2567 นี้

RELATED