ธนาคารไทยเครดิต จำกัด (มหาชน) เปิดศักราชปี 2567 ประกาศเดินหน้าเสนอขายหุ้นไอพีโอ “CREDIT” ในปีนี้ กับโอกาสครั้งสำคัญที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในความมั่นคงของธนาคารชั้นนำที่มีคุณภาพ และเป็นหนึ่งในธนาคารเพื่อผู้ประกอบการรายย่อยที่เติบโตเร็วที่สุดในประเทศไทย สามารถขยายพอร์ตสินเชื่อได้อย่างแข็งแกร่ง โดยงวด 9 เดือนแรกปี 2566 มีพอร์ตแตะระดับ 138,435.1 ล้านบาท เตรียมกางแผนข้อมูลและโชว์ศักยภาพในงาน IPO Public Roadshowวันจันทร์ที่ 22 มกราคมนี้ ที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ
นายวิญญู ไชยวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยเครดิต จำกัด (มหาชน) (“ธนาคารฯ”) กล่าวว่า ปี 2567 ธนาคารฯ พร้อมเดินหน้าขยายการเติบโต ตามแผนเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) ด้วยจำนวนหุ้นที่คาดว่าจะเสนอขายทั้งหมด (รวมหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ออกและเสนอขายโดยธนาคารฯ และหุ้นสามัญที่เสนอขายโดยผู้ถือหุ้นเดิม) ไม่เกิน 347,029,122 หุ้น คิดเป็นไม่เกินร้อยละ 28.2 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้ว ทั้งหมดของธนาคารฯ ภายหลังการทำ IPO
ตอกย้ำการเป็นธนาคารพาณิชย์ที่เสนอขายหุ้น IPO ในรอบ 10 ปี และมีจุดเด่นด้วยบริการไมโครไฟแนนซ์ที่เป็นเอกลักษณ์ สามารถตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าหลากหลายขนาดและประเภทธุรกิจ รวมถึงการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพและการบริหารจัดการความเสี่ยงที่รัดกุม สะท้อนให้เห็นได้จากเงินให้สินเชื่อมีการเติบโตอย่างรวดเร็วและแข็งแกร่ง
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานงวด 3 ปีที่ผ่านมา ธนาคารมีอัตราการเติบโตโดยเฉลี่ยสะสมระหว่างปี 2563-2565 (CAGR) ของเงินให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้ของธนาคารอยู่ที่ 33.0% ต่อปี และ ณ งวด 9 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2566 ธนาคารมีเงินให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้ของธนาคารจำนวน 138,435.1 ล้านบาท
โดยมีสาเหตุหลักมาจากการเติบโตในทุกกลุ่มสินเชื่อหลักของธนาคารและมีอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้นสำหรับปี 2565 และสำหรับ 12 เดือนย้อนหลังนับจากวันที่ 30 กันยายน 2566 เท่ากับ 18.9% และ 21.8% ตามลำดับ
นอกจากนี้ ธนาคารฯ ยังได้รับรางวัลธนาคารเพื่อรายย่อยที่เติบโตเร็วที่สุดในประเทศไทย (Fastest Growing Retail Bank in Thailand) เป็นเวลา 3 ปีติดต่อกัน (ตั้งแต่ปี 2560 ถึง 2562) จาก Global Banking & Finance Review ซึ่งเป็นนิตยสารด้านการเงินและธุรกิจจากสหราชอาณาจักร
สำหรับวัตถุประสงค์ของการระดมทุนในครั้งนี้ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งของเงินกองทุนของธนาคารฯ เพื่อใช้เป็นเงินทุนสำหรับการขยายพอร์ตสินเชื่อ รวมทั้งนำไปใช้ปรับปรุงและพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศในการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัล (Digital Transformation) และโครงสร้างพื้นฐานด้านความปลอดภัยของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT Security and Infrastructure)