รัฐบาลจีนอัดฉีดสภาพคล่อง 25,000 ล้านดอลลาร์ เข้าระบบธนาคาร

รัฐบาลจีนอัดฉีดสภาพคล่องระยะปานกลางเข้าไปในระบบธนาคารเป็นจำนวนเงินที่น้อยที่สุดตั้งแต่เดือน พ.ย. ปีที่แล้วเป็นต้นมา ซึ่งเป็นสัญญาณว่าทางการจีนต้องการวัดผลของมาตรการผ่อนคลายที่ทำไปก่อนหน้านี้เพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจซึ่งดูเหมือนจะมีความคืบหน้า

ธนาคารกลางจีน (PBOC) ได้เปิดวงเงินให้ธนาคารพาณิชย์กู้เป็นจำนวน 170,000 ล้านหยวน (25,000 ล้านดอลลาร์) โดยให้ทำผ่านช่องทางเงินให้กู้ระยะปานกลางของ PBOC

ตัวเลขที่ PBOC ประกาศออกมาแปลว่าเม็ดเงินอัดฉีดสุทธิที่ให้กับตลาดการเงินมี 20,000 ล้านหยวน ในเดือน เม.ย. ซึ่งถือว่าน้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือน พ.ย.

นอกจากนั้น ประกาศนี้ทำให้ดอกเบี้ยนโยบายของ PBOC ยังยืนคงที่ไม่เปลี่ยนแปลงที่ 2.75% ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 8 ซึ่งตรงกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดไว้จากการสำรวจของบลูมเบิร์ก

PBOC ได้ใช้มาตรการผ่อนคลายในเดือน มี.ค. โดยลดสัดส่วนการสำรองเงินสดที่ธนาคารพาณิชย์ต้องดำรงไว้ พร้อมกับจัดสรรเงินสดเพิ่มขึ้นให้กับระบบธนาคารเพื่อหนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจ

ตัวเลขเศรษฐกิจจีนของเดือนที่แล้วชี้ว่าการฟื้นตัวกำลังเริ่มให้เห็นโดยปริมาณเงินสินเชื่อมีเพิ่มขึ้นและการส่งออกทำได้สูงกว่าที่ตลาดคาด

ฟรานซ์ เฉิง นักกลยุทธ์อัตราดอกเบี้ยของธนาคาร Oversea-Chinese Banking Corp. ที่สิงคโปร์ กล่าวว่า “สิ่งที่เราเห็นได้เป็นไปตามคาด นั่นคือการขยายตัวดีขึ้นเล็กน้อย ถึงแม้เราได้คาดไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะมีการปรับลดดอกเบี้ยลงเล็กน้อยในปีนี้ แต่ตอนนี้ยังไม่มีสัญญาณว่ามันกำลังจะเกิดขึ้น”

หยี่ กัง ผู้ว่าการ PBOC กล่าวในระหว่างการประชุมกลุ่ม G20 เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า เศรษฐกิจจีนกำลังฟื้นตัวและเป้า GDP ของรัฐบาลที่ประมาณ 5% ในปีนี้ คงน่าจะทำได้ เนื่องจากตลาดอสังหาริมทรัพย์กำลังมีสภาพที่ดีขึ้น

ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลจีนอายุ 10 ปี ขยับขึ้น 0.01% มาอยู่ที่ 2.84% ในวันจันทร์ ซึ่งชดเชยส่วนที่ได้ปรับลดลงเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเมื่อตลาดคาดว่า PBOC จะปรับลดดอกเบี้ย

ค่าเงินหยวนที่ซื้อขายกันในตลาดต่างประเทศอ่อนตัวลง 0.1% มาอยู่ที่ 6.8796 ต่อดอลลาร์

ที่มา: https://www.bloomberg.com/news/articles/2023-04-17/china-pumps-in-more-liquidity-while-keeping-key-rate-on-hold?srnd=premium-asia&utm_source=website&utm_medium=share&utm_campaign=mobile_web_share&fbclid=IwAR0_9g5Flo_G6Fank1McNgRuTxsZzV_8BvdyG5c-B7c5WFM-zaY2KsvQKTs

LATEST NEWS

“Smarthome” สมาร์ทโฮมยืนหนึ่งเครื่องใช้ไฟฟ้าสำหรับทุกครอบครัว

เมื่อพูดถึงแแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน เชื่อว่าใครหลายๆ คน คงจะนึกถึงแบรนด์ “Smarthome” เป็น 1 ในคำตอบในใจอย่างแน่นอน ด้วยจุดเด่นของสินค้าที่แข็งแรง ทนทาน ดีไซน์ทันสมัยและราคาที่สามารถเข้าถึงได้ วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับแบรนด์ “Smarthome” กันให้มากยิ่งขึ้น

บิ๊กดีลสะเทือนวงการ! กรุงศรีฟินโนเวตจับมืออีฟราสตรัคเจอร์ เปิดฉากลงทุนมหาศาลปั้นกองทุนใหม่หนุนสตาร์ทอัพรายเล็กก้าวกระโดด พร้อมเปิด Accelerator ติดอาวุธเร่งสปีดสร้างการเติบโต

กรุงศรี ฟินโนเวต ร่วมกับ อีฟราสตรัคเจอร์ (Efra Structure) ของ ป้อม ภาวุธ ผู้บุกเบิกและคร่ำหวอดในวงการอีคอมเมิร์ซไทย เตรียมปั้นกองทุนยักษ์ “ฟินโน อีฟรา ไพรเวท อิควิตตี้ ทรัสต์” (Finno Efra Private Equity Trust) มุ่งลงทุนในสตาร์ทอัพไทยและอาเซียน งบประมาณมหาศาลกว่า 1,300 ล้านบาท (หรือกว่า 35 ล้านเหรียญสหรัฐ) ภายในระยะเวลา 4 ปี เผยเริ่มพูดคุยกับสตาร์ทอัพที่น่าสนใจแล้วราว 5-6 บริษัท พ่วงด้วยการเปิด Accelerator Program อย่างเป็นทางการ เพื่อปั้นสตาร์ทอัพระดับ Seed ถึง Pre-series A ให้เติบโตสู่ระดับ Series A ได้อย่างแข็งแกร่ง

SCB CIO มองตลาดหุ้นทั่วโลกผันผวน เมื่อเข้าสู่โค้งสุดท้ายเลือกตั้งสหรัฐฯ พอร์ตหลักแนะหุ้นกลุ่มเทคฯ-สุขภาพ- สาธารณูปโภค-ทองคำ ส่วนพอร์ตเสริมสะสมเวียดนาม

SCB CIO มองตลาดหุ้นโลกจะมีความผันผวนเพิ่มขึ้นเมื่อเข้าสู่โค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากสถิติชี้ว่า ดัชนี VIX  จะเร่งตัวขึ้นเมื่อเข้าสู่ช่วง 4 เดือนสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง ขณะที่สถิติในอดีตบ่งชี้ดัชนี S&P500 มีแนวโน้มชะลอตัวในช่วงเดือนส.ค.- ก.ย. แนะกลยุทธ์ลงทุนในตลาดหุ้นเลือกหุ้นคุณภาพดีเติบโตสูงงบแข็งแกร่งยอดขายกำไรเติบโตยั่งยืนเช่นกลุ่มเทคโนโลยีพร้อมผสมผสานกับหุ้นกลุ่มที่มีความทนทานต่อภาวะตลาดผันผวนเช่นกลุ่มสาธารณูปโภค  สุขภาพและสินค้าจำเป็น พร้อมระวังลงทุนในหุ้นกลุ่มขนาดเล็กจากกำไรของกิจการของหุ้นขนาดเล็กค่อนข้างผันผวนและอิงกับเศรษฐกิจสหรัฐฯเป็นหลักซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากการที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังเข้าสู่ช่วงของการชะลอตัวลง สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ปานกลาง-สูง แนะลงทุนหุ้นเวียดนามจากดัชนีฯที่ได้แรงหนุนจากเศรษฐกิจที่เติบโตต่อเนื่อง

RELATED