“เจเน็ต เยลเลน” ระบุความมั่นคงของชาติ แลกกับความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐ-จีน

รมว.คลังสหรัฐ เจเน็ต เยลเลนกล่าวในวันพฤหัสว่าสหรัฐจะปกป้องรักษาความมั่นคงของชาติ ถึงแม้จะต้องแลกกับผลประโยชน์ด้านเศรษฐกิจในความสัมพันธ์ที่มีกับจีน

คุณเยลเลน กล่าวว่า “ถึงแม้นโยบายเหล่านี้อาจจะมีผลกระทบทางเศรษฐกิจบ้าง แต่มันจะตั้งอยู่บนหลักการด้านความมั่นคงของชาติที่ทำอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งเราจะไม่ละทิ้งหลักการนี้ในกรณีที่มีการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ทางด้านเศรษฐกิจ”

เธอตอกย้ำคำพูดของ จนท. รัฐบาลสหรัฐ รวมทั้ง รมว.ต่างประเทศ แอนโทนี บลินเคนที่ได้ประกาศว่าจีนไม่ควรสนับสนุนรัสเซียในสงครามยูเครน มิฉะนั้น “ผลการละเมิด (การห้ามปรามของสหรัฐ) จะมีความรุนแรง”

คุณเยลเลน กล่าวว่า รัฐบาลสหรัฐจะพิจารณาลงโทษประเทศที่สร้างปัญหาด้านความมั่นคงให้กับสหรัฐโดยการใช้มาตรการควบคุมห้ามการส่งออก การคว่ำบาตร และจำกัดการลงทุนของสหรัฐในประเทศเหล่านั้น

เธอกล่าวในคำปราศรัยที่มหาวิทยาลัยจอห์นฮอบกิ้นส์ว่า การจัดลำดับเป้าหมายความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับจีนมีดังนี้

ความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐและการปกป้องสิทธิมนุษยธรรม การส่งเสริมความสัมพันธ์ด้านสาธารณะสุขและเศรษฐกิจที่ดีกับจีน และสุดท้ายการร่วมมือกับจีนในการแก้ปัญหาในส่วนต่างๆ ของโลก

ความสัมพันธ์กับจีนมีประเด็นที่ตึงเครียดมาตั้งแต่ต้นปีนี้เมื่อบอลลูนจีนที่สหรัฐกล่าหาว่าล่วงล้ำเข้าไปในน่านฟ้าของสหรัฐเพื่อสอดแนมที่ตั้งและการเคลื่อนไหวทางทหารของสหรัฐ

นอกจากนั้น บทบาทของจีนในสงครามยูเครนในเวทีโลกคือปัญหาที่รัฐบาล ปธน. โจ ไบเดน ให้ความสนใจเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ รวมทั้งการกำหนดมาตรการจำกัดการลงทุนของบริษัทธุรกิจของสหรัฐในจีน ซึ่งจะเป็นประเด็นที่จะเพิ่มความขัดแย้งระหว่าง 2 ประเทศให้มากยิ่งขึ้น

ในที่ประชุมของ จนท. ที่กำหนดนโยบายเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ ที่จัดโดยธนาคารโลกในเดือนนี้ ผู้เข้าประชุมได้หยิบยกประเด็นความห่วงใยเกี่ยวกับการปล่อยกู้เงินช่วยเหลือของจีนที่ให้กับประเทศต่างๆ

รายงานการศึกษาในเรื่องนี้ ระบุว่า ในช่วงปี 2008-2021 จีนได้ใช้เงินรวม 240,000 ล้านดอลลาร์ในการช่วยกอบกู้เศรษฐกิจของ 22 ประเทศ รวมทั้งอาร์เจนติน่า ปากีสถาน เคนย่า และตุรกี

นอกจากนั้น จีนยังได้ปล่อยกู้ให้กับประเทศในเอเชีย แอฟริกาและยุโรป เพื่อก่อสร้างระบบโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ด้วย

ที่มา: https://edition.cnn.com/2023/04/20/economy/janet-yellen-us-china-comments/index.html?fbclid=IwAR08emXjjjxDbvLqHNl3S3f31B_qA43O8LJ8tLAp624wK6bsk38SQ-m1s28

LATEST NEWS

“Smarthome” สมาร์ทโฮมยืนหนึ่งเครื่องใช้ไฟฟ้าสำหรับทุกครอบครัว

เมื่อพูดถึงแแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน เชื่อว่าใครหลายๆ คน คงจะนึกถึงแบรนด์ “Smarthome” เป็น 1 ในคำตอบในใจอย่างแน่นอน ด้วยจุดเด่นของสินค้าที่แข็งแรง ทนทาน ดีไซน์ทันสมัยและราคาที่สามารถเข้าถึงได้ วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับแบรนด์ “Smarthome” กันให้มากยิ่งขึ้น

บิ๊กดีลสะเทือนวงการ! กรุงศรีฟินโนเวตจับมืออีฟราสตรัคเจอร์ เปิดฉากลงทุนมหาศาลปั้นกองทุนใหม่หนุนสตาร์ทอัพรายเล็กก้าวกระโดด พร้อมเปิด Accelerator ติดอาวุธเร่งสปีดสร้างการเติบโต

กรุงศรี ฟินโนเวต ร่วมกับ อีฟราสตรัคเจอร์ (Efra Structure) ของ ป้อม ภาวุธ ผู้บุกเบิกและคร่ำหวอดในวงการอีคอมเมิร์ซไทย เตรียมปั้นกองทุนยักษ์ “ฟินโน อีฟรา ไพรเวท อิควิตตี้ ทรัสต์” (Finno Efra Private Equity Trust) มุ่งลงทุนในสตาร์ทอัพไทยและอาเซียน งบประมาณมหาศาลกว่า 1,300 ล้านบาท (หรือกว่า 35 ล้านเหรียญสหรัฐ) ภายในระยะเวลา 4 ปี เผยเริ่มพูดคุยกับสตาร์ทอัพที่น่าสนใจแล้วราว 5-6 บริษัท พ่วงด้วยการเปิด Accelerator Program อย่างเป็นทางการ เพื่อปั้นสตาร์ทอัพระดับ Seed ถึง Pre-series A ให้เติบโตสู่ระดับ Series A ได้อย่างแข็งแกร่ง

SCB CIO มองตลาดหุ้นทั่วโลกผันผวน เมื่อเข้าสู่โค้งสุดท้ายเลือกตั้งสหรัฐฯ พอร์ตหลักแนะหุ้นกลุ่มเทคฯ-สุขภาพ- สาธารณูปโภค-ทองคำ ส่วนพอร์ตเสริมสะสมเวียดนาม

SCB CIO มองตลาดหุ้นโลกจะมีความผันผวนเพิ่มขึ้นเมื่อเข้าสู่โค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากสถิติชี้ว่า ดัชนี VIX  จะเร่งตัวขึ้นเมื่อเข้าสู่ช่วง 4 เดือนสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง ขณะที่สถิติในอดีตบ่งชี้ดัชนี S&P500 มีแนวโน้มชะลอตัวในช่วงเดือนส.ค.- ก.ย. แนะกลยุทธ์ลงทุนในตลาดหุ้นเลือกหุ้นคุณภาพดีเติบโตสูงงบแข็งแกร่งยอดขายกำไรเติบโตยั่งยืนเช่นกลุ่มเทคโนโลยีพร้อมผสมผสานกับหุ้นกลุ่มที่มีความทนทานต่อภาวะตลาดผันผวนเช่นกลุ่มสาธารณูปโภค  สุขภาพและสินค้าจำเป็น พร้อมระวังลงทุนในหุ้นกลุ่มขนาดเล็กจากกำไรของกิจการของหุ้นขนาดเล็กค่อนข้างผันผวนและอิงกับเศรษฐกิจสหรัฐฯเป็นหลักซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากการที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังเข้าสู่ช่วงของการชะลอตัวลง สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ปานกลาง-สูง แนะลงทุนหุ้นเวียดนามจากดัชนีฯที่ได้แรงหนุนจากเศรษฐกิจที่เติบโตต่อเนื่อง

RELATED