นักลงทุนมองตลาดหุ้นจีนไปทางลบ แม้ปัจจัยพื้นฐานเศรษฐกิจจีนแกร่ง

นักวิเคราะห์พากันแปลกใจว่าในขณะนี้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนจีนในตลาดหุ้นในประเทศทำไมยังมีน้อย ถึงแม้ปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจของจีนควรจะทำให้ตลาดหุ้นเป็นแหล่งที่น่าลงทุน

ราคาหุ้นที่อยู่ในดัชนี MSCI China ได้ปรับตัวลงในช่วงหลังๆ ซึ่งทำให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 12 เดือนของหุ้นเหล่านี้ติดลบ ซึ่งดูเหมือนสะท้อนว่านักลงทุนมองแนวโน้มผลประกอบการของบริษัทจีนว่าจะหดตัว โดยพวกเขาหันมาใช้กลยุทธ์การลงทุนแบบ “ตั้งรับ” ที่เน้นในหุ้นที่สามารถปรับตัวรับมือได้ดีในสภาพเศรษฐกิจถดถอย โดยเน้นไปซื้อหุ้นที่จ่ายปันผลสูง

การมองภาพในแง่ลบของนักลงทุน ซึ่งถูกซ้ำเติมด้วยความขัดแย้งที่จีนมีกับสหรัฐ มีมากจนไปกดดันราคาหุ้นถึงแม้ปัจจัยพื้นฐานที่ดีขึ้นน่าจะช่วยสภาพตลาดหุ้นโดยรวมให้ปรับตัวสูงขึ้นได้

ในเดือน เม.ย. ดัชนี MSCI China เคลื่อนไหววิ่งตามหลังเกือบทุกดัชนีของตลาดใหญ่ๆ ของโลก ถึงแม้ตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจของจีนจะออกมาดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 2006 และธนาคารระดับโลกต่างปรับคาดการณ์ผลประกอบการของบริษัทจีนให้ดีขึ้นหมด

วินนี่ หวู นักกลยุทธ์ตลาดหุ้นจีนของ Bank of America กล่าวให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า “ขณะนี้ นักลงทุนยังมองตลาดจีนไปทางด้านลบอย่างชัดเจน”

เธอกล่าวว่า “ความรู้สึกของนักลงทุนคือการฟื้นตัวจากโควิดควรจะมีให้เห็นชัดเจนมากกว่านี้ โดยคนส่วนใหญ่ยังไม่มั่นใจพอที่จะลงทุนไปก่อนแล้วค่อยมานั่งดูดัชนีปรับตัวขึ้นตามไป”

นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าบริษัทจีนที่อยู่ในดัชนี MSCI China จะมีรายได้ผลประกอบการเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 22% ในปีนี้ ซึ่งจะเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดตั้งแต่ปี 2011 แต่นักลงทุนก็ยังขายหุ้นออกมาต่อเนื่องจนหุ้นกลุ่มเทคได้ลดลงมาถึงแดน “ตลาดหมี” โดยเส้นกราฟกำลังแสดงสัญญาณที่น่าวิตก

มูลค่าราคาหุ้นของตลาดบนผืนแผ่นดินใหญ่จีนและของฮ่องกงได้ดิ่งลงรวมกันถึง 866,000 ล้านดอลลาร์ในช่วงสัปดาห์กว่าๆ เล็กน้อย ซึ่งเป็นตัวเลขที่มากกว่าช่วงการเทขายอย่างหนักเมื่อเดือน ต.ค. ปีที่แล้วเสียอีก

ในเดือน ต.ค. ปีที่แล้ว ความวิตกของนักลงทุนว่าภาพของตลาดหุ้นจีนจะเป็นอย่างไรภายใต้การคุมอำนาจอย่างเบ็ดเสร็จของ ปธน. สีจิ้นผิง หลังการประชุมใหญ่ของสภาประชาชนจีนที่ได้กระตุ้นให้เกิดการเทขายออกมา

แต่ถึงแม้ว่านักลงทุนจะได้กลับเข้าตลาดหุ้นใหม่อีกครั้ง หลังจากรัฐบาลยกเลิกมาตรการควบคุมโควิดและไปเน้นนโยบายสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจ แต่รอบการเทขายหุ้นที่มีในขณะนี้อาจสะท้อนถึงความวิตกเรื่องที่รัฐบาลได้เคยปราบปรามบริษัทใหญ่ๆ ของจีนที่มีกำไรมากที่สุดที่ทำให้เศรษฐกิจและนักลงทุนต้องเสียหายไปด้วย

ที่มา : Darkening Gloom in Chinese Stocks Puzzles Wall Street Veterans – Bloomberg

LATEST NEWS

“Smarthome” สมาร์ทโฮมยืนหนึ่งเครื่องใช้ไฟฟ้าสำหรับทุกครอบครัว

เมื่อพูดถึงแแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน เชื่อว่าใครหลายๆ คน คงจะนึกถึงแบรนด์ “Smarthome” เป็น 1 ในคำตอบในใจอย่างแน่นอน ด้วยจุดเด่นของสินค้าที่แข็งแรง ทนทาน ดีไซน์ทันสมัยและราคาที่สามารถเข้าถึงได้ วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับแบรนด์ “Smarthome” กันให้มากยิ่งขึ้น

บิ๊กดีลสะเทือนวงการ! กรุงศรีฟินโนเวตจับมืออีฟราสตรัคเจอร์ เปิดฉากลงทุนมหาศาลปั้นกองทุนใหม่หนุนสตาร์ทอัพรายเล็กก้าวกระโดด พร้อมเปิด Accelerator ติดอาวุธเร่งสปีดสร้างการเติบโต

กรุงศรี ฟินโนเวต ร่วมกับ อีฟราสตรัคเจอร์ (Efra Structure) ของ ป้อม ภาวุธ ผู้บุกเบิกและคร่ำหวอดในวงการอีคอมเมิร์ซไทย เตรียมปั้นกองทุนยักษ์ “ฟินโน อีฟรา ไพรเวท อิควิตตี้ ทรัสต์” (Finno Efra Private Equity Trust) มุ่งลงทุนในสตาร์ทอัพไทยและอาเซียน งบประมาณมหาศาลกว่า 1,300 ล้านบาท (หรือกว่า 35 ล้านเหรียญสหรัฐ) ภายในระยะเวลา 4 ปี เผยเริ่มพูดคุยกับสตาร์ทอัพที่น่าสนใจแล้วราว 5-6 บริษัท พ่วงด้วยการเปิด Accelerator Program อย่างเป็นทางการ เพื่อปั้นสตาร์ทอัพระดับ Seed ถึง Pre-series A ให้เติบโตสู่ระดับ Series A ได้อย่างแข็งแกร่ง

SCB CIO มองตลาดหุ้นทั่วโลกผันผวน เมื่อเข้าสู่โค้งสุดท้ายเลือกตั้งสหรัฐฯ พอร์ตหลักแนะหุ้นกลุ่มเทคฯ-สุขภาพ- สาธารณูปโภค-ทองคำ ส่วนพอร์ตเสริมสะสมเวียดนาม

SCB CIO มองตลาดหุ้นโลกจะมีความผันผวนเพิ่มขึ้นเมื่อเข้าสู่โค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากสถิติชี้ว่า ดัชนี VIX  จะเร่งตัวขึ้นเมื่อเข้าสู่ช่วง 4 เดือนสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง ขณะที่สถิติในอดีตบ่งชี้ดัชนี S&P500 มีแนวโน้มชะลอตัวในช่วงเดือนส.ค.- ก.ย. แนะกลยุทธ์ลงทุนในตลาดหุ้นเลือกหุ้นคุณภาพดีเติบโตสูงงบแข็งแกร่งยอดขายกำไรเติบโตยั่งยืนเช่นกลุ่มเทคโนโลยีพร้อมผสมผสานกับหุ้นกลุ่มที่มีความทนทานต่อภาวะตลาดผันผวนเช่นกลุ่มสาธารณูปโภค  สุขภาพและสินค้าจำเป็น พร้อมระวังลงทุนในหุ้นกลุ่มขนาดเล็กจากกำไรของกิจการของหุ้นขนาดเล็กค่อนข้างผันผวนและอิงกับเศรษฐกิจสหรัฐฯเป็นหลักซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากการที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังเข้าสู่ช่วงของการชะลอตัวลง สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ปานกลาง-สูง แนะลงทุนหุ้นเวียดนามจากดัชนีฯที่ได้แรงหนุนจากเศรษฐกิจที่เติบโตต่อเนื่อง

RELATED