Disney ตามรอย Netflix ยกเลิกแชร์พาสเวิร์ดปีหน้า

CEO บริษัท Disney คุณ Bob Iger บอกว่าทางบริษัท กำลังสำรวจและปรับปรุงแก้ไขรายละเอียดเพิ่มเติมของการใช้งานแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง

บริษัทจะเปลี่ยนกลยุทธ์ เพื่อบรรเทาการแชร์รหัสผ่านในปี 2024 และน่าจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ปีหน้าเลย

ความคิดริเริ่มมาจาก Disney และ แพลตฟอร์มอื่นๆมองหาหนทางทำกำไรจากการ streaming ไม่ว่าจะเป็นการลดค่าใช้จ่าย ปรับลดราคา subscribtion การสนับสนุนการใช้โฆษณา และการป้องกันการแชร์รหัสผ่าน Disney เตรียมเดินตามรอยเท้า Netflix ที่เพิ่งเปลี่ยนนโยบายการใช้งานบัญชีไปตอนต้นปีนี้

คุณ Iger บอกว่ากลยุทธ์นี้จะทำเป็นลำดับต้นๆและมีความสำคัญจริง ในขณะนี้ Disney มี3 แพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง ประกอบด้วย Disney+, Hulu และ ESPN+ ยังมีการขายทั้งสามแพลตฟอร์มรวมกันแบบแพคเกจ ในราคาที่ถูกกว่า

ทางบริษัท มีแผนที่จะออกแอปที่รวมทั้ง Hulu และ Disney+ ให้ใช้ในประเทศสหรัฐอเมริกา ในขณะที่แบบแยกออกเป็น 3 อย่างก็ยังใช้ได้อยู่

Disney ยังเตรียมขึ้นราคา ในแทบทุกช่องทางบริการ ไม่ว่าจะเป็น Disney+ แบบไม่มีโฆษณา จะแพงขึ้น 27% เป็น 490 บาท หรือ 13.99 ดอลลาร์ต่อเดือน ราคาของ Hulu แบบไม่มีโฆษณา ก็แพงขึ้น 20% เป็น 630 บาท หรือ 17.99 ดอลลาร์ต่อเดือน แต่ราคาแบบมีโฆษณายังคงเท่าเดิม

กุญแจสำคัญในการทำกำไรของ Disney ก็คือ ค่าโฆษณา

แต่ว่าการยกเลิกการแชร์พาสเวิร์ตจะไปหยุดการเติบโตของผู้ใช้งานหรือไม่ ทางบริษัทบอกว่ามันจะต้องเกิดขึ้นบ้างอย่างแน่นอน แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือโอกาสในการเติบโตของธุรกิจ

Netflix เป็นผู้ที่ริเริ่มการยกเลิกการแชร์รหัสผ่าน เพราะต้องการเพิ่มรายได้ให้กับบริษัท และประกาศออกมาในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาว่า มีลูกค้าเพิ่มขึ้น 5.9 ล้านรายในไตรมาสที่2 ของปีนี้

ก่อนหน้านี้ทางบริษัทออกมาบอกว่า มีมากถึง 43% ของลูกค้าทั่วโลก หรือ 100 ล้านครอบครัว ที่มีการใช้บัญชีร่วมกัน สำหรับทางบริษัทแล้ว ยากต่อการลงทุนในคอนเท้นต์ใหม่ๆ จึงเริ่มจากในหลายๆประเทศจนมาถึงการหยุดให้แชร์พาสเวิร์ดที่สหรัฐอเมริกา ในเดือนพฤษภาคม

ทำให้ผู้ใช้งาน Netflix ต้องเลือกระหว่าง ให้แยกบัญชีออกจากกัน หรือจ่ายเงินเพิ่ม 7.99 ดอลลาร์ หรือ 279 บาทต่อบัญชี ต่อเดือน

สำหรับตอนนี้ ก็ยังเป็นคำถามอยู่ว่า Disney จะใช้วิธีไหนเพื่อลดการแชร์รหัสผ่านระหว่างบัญชีกัน

ที่มา: Disney to crack down on password sharing, following Netflix (cnbc.com)

LATEST NEWS

“Smarthome” สมาร์ทโฮมยืนหนึ่งเครื่องใช้ไฟฟ้าสำหรับทุกครอบครัว

เมื่อพูดถึงแแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน เชื่อว่าใครหลายๆ คน คงจะนึกถึงแบรนด์ “Smarthome” เป็น 1 ในคำตอบในใจอย่างแน่นอน ด้วยจุดเด่นของสินค้าที่แข็งแรง ทนทาน ดีไซน์ทันสมัยและราคาที่สามารถเข้าถึงได้ วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับแบรนด์ “Smarthome” กันให้มากยิ่งขึ้น

บิ๊กดีลสะเทือนวงการ! กรุงศรีฟินโนเวตจับมืออีฟราสตรัคเจอร์ เปิดฉากลงทุนมหาศาลปั้นกองทุนใหม่หนุนสตาร์ทอัพรายเล็กก้าวกระโดด พร้อมเปิด Accelerator ติดอาวุธเร่งสปีดสร้างการเติบโต

กรุงศรี ฟินโนเวต ร่วมกับ อีฟราสตรัคเจอร์ (Efra Structure) ของ ป้อม ภาวุธ ผู้บุกเบิกและคร่ำหวอดในวงการอีคอมเมิร์ซไทย เตรียมปั้นกองทุนยักษ์ “ฟินโน อีฟรา ไพรเวท อิควิตตี้ ทรัสต์” (Finno Efra Private Equity Trust) มุ่งลงทุนในสตาร์ทอัพไทยและอาเซียน งบประมาณมหาศาลกว่า 1,300 ล้านบาท (หรือกว่า 35 ล้านเหรียญสหรัฐ) ภายในระยะเวลา 4 ปี เผยเริ่มพูดคุยกับสตาร์ทอัพที่น่าสนใจแล้วราว 5-6 บริษัท พ่วงด้วยการเปิด Accelerator Program อย่างเป็นทางการ เพื่อปั้นสตาร์ทอัพระดับ Seed ถึง Pre-series A ให้เติบโตสู่ระดับ Series A ได้อย่างแข็งแกร่ง

SCB CIO มองตลาดหุ้นทั่วโลกผันผวน เมื่อเข้าสู่โค้งสุดท้ายเลือกตั้งสหรัฐฯ พอร์ตหลักแนะหุ้นกลุ่มเทคฯ-สุขภาพ- สาธารณูปโภค-ทองคำ ส่วนพอร์ตเสริมสะสมเวียดนาม

SCB CIO มองตลาดหุ้นโลกจะมีความผันผวนเพิ่มขึ้นเมื่อเข้าสู่โค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากสถิติชี้ว่า ดัชนี VIX  จะเร่งตัวขึ้นเมื่อเข้าสู่ช่วง 4 เดือนสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง ขณะที่สถิติในอดีตบ่งชี้ดัชนี S&P500 มีแนวโน้มชะลอตัวในช่วงเดือนส.ค.- ก.ย. แนะกลยุทธ์ลงทุนในตลาดหุ้นเลือกหุ้นคุณภาพดีเติบโตสูงงบแข็งแกร่งยอดขายกำไรเติบโตยั่งยืนเช่นกลุ่มเทคโนโลยีพร้อมผสมผสานกับหุ้นกลุ่มที่มีความทนทานต่อภาวะตลาดผันผวนเช่นกลุ่มสาธารณูปโภค  สุขภาพและสินค้าจำเป็น พร้อมระวังลงทุนในหุ้นกลุ่มขนาดเล็กจากกำไรของกิจการของหุ้นขนาดเล็กค่อนข้างผันผวนและอิงกับเศรษฐกิจสหรัฐฯเป็นหลักซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากการที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังเข้าสู่ช่วงของการชะลอตัวลง สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ปานกลาง-สูง แนะลงทุนหุ้นเวียดนามจากดัชนีฯที่ได้แรงหนุนจากเศรษฐกิจที่เติบโตต่อเนื่อง

RELATED