ตลาดหลักทรัพย์ลอนดอนผนึกบริษัทกลต.เอกชนฯ ร่วมกับ WINTON(UK) และ RENAISSANCE PRIVATE EQUITY เปิดตัว “London Stock Exchange” สุดยิ่งใหญ่ครั้งแรกในไทย เพิ่มโอกาสภาคธุรกิจเข้าถึงแหล่งทุนต่อยอดการเติบโต

“ตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน (London Stock Exchange Group)” ผนึกบริษัท กลต.เอกชนของตลาดหลักทรัพย์อังกฤษ (NOMAD) อันดับหนึ่ง WH Ireland Plc. ร่วมกับบริษัทที่ปรึกษาร่วมวินตันแอสโซซิเอส (ลอนดอนประเทศอังกฤษ) และ Renaissance International Partners Plc.(Private Equity) เปิดตัว “London Stock Exchange” สุดยิ่งใหญ่อย่างเป็นทางการครั้งแรกในเมืองไทยขยายช่องทางเข้าถึงแหล่งเงินทุนระดับโลกยกระดับศักยภาพการแข่งขันต่อยอดโอกาสการเติบโตก้าวกระโดดอย่างแข็งแกร่งให้ภาคธุรกิจไทยระบุขั้นตอนเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์นานาชาติสะดวกรวดเร็วดำเนินการแล้วเสร็จภายในระยะเวลาเพียง 4-6 เดือนในตลาดเติบโตภายใต้ระบบ Disclosure Base ล่าสุดมีภาคธุรกิจไทยจ่อเข้าระดมทุนเพิ่มอีกหลายรายในปีนี้หลังผลักดันเข้าไปที่อยู่ระหว่างการระดมทุนในขั้นตอนสุดท้ายแล้วทั้งสิ้น 2 กลุ่มอุตสาหกรรมคือธุรกิจด้านอาหาร (Restaurant & Bar) และธุรกิจด้านวิศวกรรมและพลังงาน 

ตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน (London Stock Exchange Group, LSEG) ภายใต้การสนับสนุนจากสถานทูตอังกฤษประจำประเทศไทย ส่วนงานการค้าร่วมกับบริษัท เรเนซองส์ อินเตอร์เนชั่นแนล พาร์ทเนอร์ จำกัด (Renaissance International Partners Plc.) ในฐานะกองทุนร่วมลงทุนและส่วนทุน (Private Equity) ที่ร่วมกระจายหุ้นหลักทรัพย์ในนานาชาติ ร่วมกับ บริษัท วินตัน แอสโซซิเอส (อังกฤษ) จำกัด (Winton Associates Ltd. UK) ในฐานะบริษัทที่ปรึกษาร่วม (Co Advisor) ที่ร่วมดำเนินการกับบริษัทเอกชนกำกับหลักทรัพย์ (กลต.) ที่ได้รับอนุญาติจากตลาดหลักทรัพย์นานาชาติ (Private Regulator/NOMAD/SPONSOR) ในตลาดเติบโต (Growth Market) อันดับหนึ่งของตลาดอังกฤษ WH Ireland Plc. จัดงานเปิดตัวตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน (London Stock Exchange : LSE) ซึ่งเป็นตลาดหลักทรัพย์นานาชาติ (International Stock Exchange) ที่เก่าแก่และมีขนาดใหญ่ (Market Capitalization) เกินกว่า 3.16 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ณ สิ้นปี 2023 อยู่ในอันดับ TOP 10 ของตลาดหลักทรัพย์ชั้นหนึ่งในระดับ World Class สุดยิ่งใหญ่อย่างเป็นทางการครั้งแรกในประเทศไทย 

นาย ณ ชนก รัตนทารส ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เรเนซองส์ อินเตอร์เนชั่นแนล พาร์ทเนอร์ จำกัด (Renaissance International Partners Plc.) กล่าวว่า ภาพรวมการแข่งขันของภาคธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ มีแนวโน้มทวีความดุเดือดมากขึ้น ซึ่งการเข้าถึงแหล่งเงินทุนถือเป็นหัวใจสำคัญที่จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน ต่อยอดโอกาสการเติบโตแบบก้าวกระโดดและแข็งแกร่งในระยะยาวให้กับภาคธุรกิจ โดยปัจจุบันภาคธุรกิจสามารถดำเนินการระดมทุนได้หลากหลายรูปแบบ รวมถึงการระดมทุนผ่านตลาดหลักทรัพย์นานาชาติ อย่างเช่น ตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน (London Stock Exchange : LSE) ซึ่งมีขั้นตอนไม่ยุ่งยาก สะดวก รวดเร็ว เพียงแค่ยื่นขออนุมัติจากบริษัทเอกชนกำกับหลักทรัพย์ (กลต.) ที่ได้รับอนุญาตจากตลาดหลักทรัพย์นานาชาติ (Private Regulator) ก่อนจะทำ Due-diligence หรือการตรวจสอบสถานะ และยื่นคำขอเพื่อเสนอขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไป (Filing) ซึ่งเบื้องต้นใช้ระยะเวลาดำเนินการเพียง 4-6 เดือน ก็สามารถเข้าระดมทุนได้ทันที 

ด้าน Mr. Chris Fielding กรรมการผู้จัดการ WH Ireland Plc. (Private Regulator/NOMAD) บริษัทกลต.เอกชนที่ได้รับอนุญาต จากตลาดหลักทรัพย์อังกฤษอันดับหนึ่ง ร่วมกับ ดร.วรวุฒิ คงศิลป์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่ผู้บริหารร่วมอาวุโส บริษัท วินตัน แอสโซซิเอส (อังกฤษ) จำกัด (Winton Associates Ltd. UK) ในฐานะบริษัทที่ปรึกษาร่วม (Co Advisor) กล่าวว่า การเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯนั้น นับเป็นอีกขั้นของโอกาสที่จะช่วยให้ภาคธุรกิจสามารถขยายการเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด ไปพร้อมๆกับความน่าเชื่อถือที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันการระดมทุนระหว่างประเทศ ผ่านตลาดหลักทรัพย์นานาชาติชั้นนำของประเทศพัฒนาแล้วของโลก อาทิ สหรัฐอเมริกา, อังกฤษ, สิงคโปร์, ฮ่องกง, และออสเตรเลีย ได้รับความนิยมจากภาคธุรกิจขนาดกลางและขนาดใหญ่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากขั้นตอนการเข้าระดมทุนมีความสะดวก รวดเร็ว ดำเนินการแล้วเสร็จพร้อมเข้าระดมทุนได้ภายในระยะเวลาค่อนข้างสั้นเฉลี่ย 4-6 เดือนเท่านั้น ภายใต้โครงสร้างการระดมทุนแบบบริษัทโฮลดิ้ง (Holding Company) กล่าวคือบริษัทที่ไม่ได้มีการดำเนินธุรกิจ แต่นำเงินไปลงทุนถือหุ้นในบริษัทอื่น เพื่อรอรับเงินปันผลจากกิจการนั้นๆ 

โดยใช้วิธีการเปิดเผยข้อมูลสาธารณะ (Disclosure-based) ซึ่งจะดำเนินการผ่าน บริษัท กลต.เอกชนที่ได้รับอนุญาตจากตลาดหลักทรัพย์หรือ  (Private Regulator and Nominated Advisor or NOMAD) และได้รับการแต่งตั้งจาก ตลาดหลักทรัพย์ (Sponsor or Nominated Advisor) เพียงที่เดียวร่วมกับบริษัทที่ปรึกษาร่วม (Co Advisor) ในประเทศที่ประกอบธุรกิจ เพื่อตรวจสอบและจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ หากผ่านการตรวจสอบเรียบร้อยทุกขั้นตอน ภายใต้ระบบเปิดเผยสาธารณะ (Disclosure Base) ในประเทศที่พัฒนาแล้ว (Developed Country) ภายใต้สภาพแวดล้อมของนักลงทุนที่เป็นสถาบันการเงินและกองทุนขนาดใหญ่นานาชาติ (Accredited Investors) เป็นส่วนใหญ่ ภาคธุรกิจสามารถเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯได้ทันที ซึ่งแตกต่างจากการระดมทุนภายในประเทศที่กำลังพัฒนา (Developing Country) ที่มีกฎเกณฑ์ค่อนข้างรัดกุม และเข้มงวด ตามแนวทางการกำกับดูแลโดยใช้วิธีการพิจารณาอนุญาติตามความเหมาะสม (Merit-based) ด้วยการยื่นตรวจสอบสถานะ หรือ Due-diligence ก่อนยื่น Filing และยื่นขออนุมัติจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.)ที่เป็นหน่วยงานราชการ (Public Regulator) ภายใต้สภาพแวดล้อมของนักลงทุนที่เป็นรายย่อยเป็นส่วนใหญ่ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาค่อนข้างนาน 

“การระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์นานาชาติ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างการเติบโตให้กับภาคธุรกิจ โดยไม่จำเป็นต้องมีธุรกิจประกอบการ (Operation)ในต่างประเทศ ซึ่งเป็นการเข้าหาแหล่งเงินทุนในส่วนทุน ที่เริ่มต้นจากการ (IPO) (Initial Public Offering) โดยไม่เป็นส่วนหนี้ ซึ่งเชื่อว่า การระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์นานาชาติ จะสามารถเป็นส่วนเสริมผลักดันให้ภาคธุรกิจไทยเติบโตได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานของภาคธุรกิจในส่วนทุนจะมีความมั่นคงแข็งแรง มีสภาพคล่องที่ดี อันจะเป็นส่วนสำคัญของการเติบโตของภาคธุรกิจในระยะยาว” ดร.วรวุฒิ กล่าว

Mr. Chris Fielding กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้มีภาคธุรกิจไทย ทั้งบริษัทขนาดกลาง และขนาดใหญ่สนใจ และเตรียมความพร้อมเข้าจดทะเบียนในตลาด London Stock Exchange : LSE เป็นจำนวนมาก หลังจากที่ได้ผลักดันให้เข้าไปอยู่ระหว่างระดมทุนขั้นตอนสุดท้ายแล้วสองกลุ่มอุตสาหกรรมหลักของประเทศ 

LATEST NEWS

“Smarthome” สมาร์ทโฮมยืนหนึ่งเครื่องใช้ไฟฟ้าสำหรับทุกครอบครัว

เมื่อพูดถึงแแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน เชื่อว่าใครหลายๆ คน คงจะนึกถึงแบรนด์ “Smarthome” เป็น 1 ในคำตอบในใจอย่างแน่นอน ด้วยจุดเด่นของสินค้าที่แข็งแรง ทนทาน ดีไซน์ทันสมัยและราคาที่สามารถเข้าถึงได้ วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับแบรนด์ “Smarthome” กันให้มากยิ่งขึ้น

บิ๊กดีลสะเทือนวงการ! กรุงศรีฟินโนเวตจับมืออีฟราสตรัคเจอร์ เปิดฉากลงทุนมหาศาลปั้นกองทุนใหม่หนุนสตาร์ทอัพรายเล็กก้าวกระโดด พร้อมเปิด Accelerator ติดอาวุธเร่งสปีดสร้างการเติบโต

กรุงศรี ฟินโนเวต ร่วมกับ อีฟราสตรัคเจอร์ (Efra Structure) ของ ป้อม ภาวุธ ผู้บุกเบิกและคร่ำหวอดในวงการอีคอมเมิร์ซไทย เตรียมปั้นกองทุนยักษ์ “ฟินโน อีฟรา ไพรเวท อิควิตตี้ ทรัสต์” (Finno Efra Private Equity Trust) มุ่งลงทุนในสตาร์ทอัพไทยและอาเซียน งบประมาณมหาศาลกว่า 1,300 ล้านบาท (หรือกว่า 35 ล้านเหรียญสหรัฐ) ภายในระยะเวลา 4 ปี เผยเริ่มพูดคุยกับสตาร์ทอัพที่น่าสนใจแล้วราว 5-6 บริษัท พ่วงด้วยการเปิด Accelerator Program อย่างเป็นทางการ เพื่อปั้นสตาร์ทอัพระดับ Seed ถึง Pre-series A ให้เติบโตสู่ระดับ Series A ได้อย่างแข็งแกร่ง

SCB CIO มองตลาดหุ้นทั่วโลกผันผวน เมื่อเข้าสู่โค้งสุดท้ายเลือกตั้งสหรัฐฯ พอร์ตหลักแนะหุ้นกลุ่มเทคฯ-สุขภาพ- สาธารณูปโภค-ทองคำ ส่วนพอร์ตเสริมสะสมเวียดนาม

SCB CIO มองตลาดหุ้นโลกจะมีความผันผวนเพิ่มขึ้นเมื่อเข้าสู่โค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากสถิติชี้ว่า ดัชนี VIX  จะเร่งตัวขึ้นเมื่อเข้าสู่ช่วง 4 เดือนสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง ขณะที่สถิติในอดีตบ่งชี้ดัชนี S&P500 มีแนวโน้มชะลอตัวในช่วงเดือนส.ค.- ก.ย. แนะกลยุทธ์ลงทุนในตลาดหุ้นเลือกหุ้นคุณภาพดีเติบโตสูงงบแข็งแกร่งยอดขายกำไรเติบโตยั่งยืนเช่นกลุ่มเทคโนโลยีพร้อมผสมผสานกับหุ้นกลุ่มที่มีความทนทานต่อภาวะตลาดผันผวนเช่นกลุ่มสาธารณูปโภค  สุขภาพและสินค้าจำเป็น พร้อมระวังลงทุนในหุ้นกลุ่มขนาดเล็กจากกำไรของกิจการของหุ้นขนาดเล็กค่อนข้างผันผวนและอิงกับเศรษฐกิจสหรัฐฯเป็นหลักซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากการที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังเข้าสู่ช่วงของการชะลอตัวลง สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ปานกลาง-สูง แนะลงทุนหุ้นเวียดนามจากดัชนีฯที่ได้แรงหนุนจากเศรษฐกิจที่เติบโตต่อเนื่อง

RELATED