IMF ชี้ความขัดแย้งสหรัฐ-จีน ฉุด GDP โลก ลดลง 2%

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) กล่าวในรายงานฉบับหนึ่งว่า ความตึงเครียดของโลกจะกระทบต่อบรรยากาศการลงทุนระหว่างประเทศ ซึ่งอาจนำไปสู่การสูญเสียด้านการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในระยะยาวได้ถึง 2.0%

รายงานของ IMF ระบุว่า บริษัทธุรกิจและรัฐบาลของประเทศต่างๆ ทั่วโลกกำลังมองหาทางปรับปรุงระบบห่วงโซ่อุปทานให้มีความคล่องตัวยืดหยุ่นมากขึ้น โดย “ย้ายฐานการผลิตกลับมายังประเทศของตนหรือไปยังประเทศที่ไว้ใจกันได้” ซึ่ง IMF เตือนว่าจะทำให้ภาพการลงทุนโดยตรงในต่างประเทศแตกกระจัดกระจายออกไป

IMF ชี้ไปถึงการตรากฏหมายของประเทศต่างๆ ที่ทำขึ้นท่ามกลางสภาพความตึงเครียดระหว่างสหรัฐกับจีน เช่น กฏหมาย Chips and Science Act ของสหรัฐ ในขณะที่ญี่ปุ่นได้ใช้มาตรการจำกัดการส่งออกอุปกรณ์ผลิตสินค้าเซมิคอนดักเตอร์ 23 รายการ ซึ่งเป็นการจับมือกับสหรัฐในการสกัดกั้นศักยภาพของจีนในการผลิตแผ่นชิปคุณภาพสูง

ผลการสำรวจโดยสภาหอการค้าสหรัฐในจีนเมื่อเร็วๆ นี้ ชี้ถึงภาพการย้ายฐานการลงทุน FDI ออกจากจีน โดยมีสมาชิกเพียงไม่ถึงครึ่งที่ผู้ตอบแบบสอบถามที่ระบุว่าครั้งนี้เป็นครั้งแรกในรอบ 25 ปี ที่ยังเลือกจีนให้อยู่ใน 1 ใน 3 ของประเทศแรกๆ ที่พวกตนจะเลือกไปลงทุน

นักเศรษฐศาสตร์ของ IMF กล่าวว่า ในขณะนี้ เงินลงทุนจะไหลไปยังประเทศที่ถือว่า “มีความสนิทสนมใกล้ชิดทางด้านภูมิศาสตร์การเมือง” และแนวโน้มที่มีเพิ่มขึ้นของการ “เสริมสร้างกลุ่มประเทศพันธมิตร” ที่จะกระทบต่อประเทศที่มีการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจน้อยกว่าได้มากที่สุด

เจบิน อัน นักเศรษฐศาสตร์ของ IMF ระบุในบทวิจัยว่า “ประเทศเกิดใหม่และประเทศกำลังพัฒนาจะถูกกระทบมากเป็นพิเศษจากช่องทางที่น้อยลงในการเข้าถึงเงินลงทุนจากประเทศที่พัฒนาแล้ว เนื่องจากการระดมเงินทุนและการเพิ่มผลผลิตที่เกิดจากการถ่ายทอดเทคโนโลยีและวิชาการที่มีลดน้อยลง”

ที่มา: https://www.cnbc.com/2023/04/06/imf-foreign-direct-investment.html?fbclid=IwAR3q3uFxLIPpxHVI6m6dWKvMZIESc3JPUSYXW2cqDW_jsHR4k-uQ-u0tpaQ

Graphic by ferguson

LATEST NEWS

“Smarthome” สมาร์ทโฮมยืนหนึ่งเครื่องใช้ไฟฟ้าสำหรับทุกครอบครัว

เมื่อพูดถึงแแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน เชื่อว่าใครหลายๆ คน คงจะนึกถึงแบรนด์ “Smarthome” เป็น 1 ในคำตอบในใจอย่างแน่นอน ด้วยจุดเด่นของสินค้าที่แข็งแรง ทนทาน ดีไซน์ทันสมัยและราคาที่สามารถเข้าถึงได้ วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับแบรนด์ “Smarthome” กันให้มากยิ่งขึ้น

บิ๊กดีลสะเทือนวงการ! กรุงศรีฟินโนเวตจับมืออีฟราสตรัคเจอร์ เปิดฉากลงทุนมหาศาลปั้นกองทุนใหม่หนุนสตาร์ทอัพรายเล็กก้าวกระโดด พร้อมเปิด Accelerator ติดอาวุธเร่งสปีดสร้างการเติบโต

กรุงศรี ฟินโนเวต ร่วมกับ อีฟราสตรัคเจอร์ (Efra Structure) ของ ป้อม ภาวุธ ผู้บุกเบิกและคร่ำหวอดในวงการอีคอมเมิร์ซไทย เตรียมปั้นกองทุนยักษ์ “ฟินโน อีฟรา ไพรเวท อิควิตตี้ ทรัสต์” (Finno Efra Private Equity Trust) มุ่งลงทุนในสตาร์ทอัพไทยและอาเซียน งบประมาณมหาศาลกว่า 1,300 ล้านบาท (หรือกว่า 35 ล้านเหรียญสหรัฐ) ภายในระยะเวลา 4 ปี เผยเริ่มพูดคุยกับสตาร์ทอัพที่น่าสนใจแล้วราว 5-6 บริษัท พ่วงด้วยการเปิด Accelerator Program อย่างเป็นทางการ เพื่อปั้นสตาร์ทอัพระดับ Seed ถึง Pre-series A ให้เติบโตสู่ระดับ Series A ได้อย่างแข็งแกร่ง

SCB CIO มองตลาดหุ้นทั่วโลกผันผวน เมื่อเข้าสู่โค้งสุดท้ายเลือกตั้งสหรัฐฯ พอร์ตหลักแนะหุ้นกลุ่มเทคฯ-สุขภาพ- สาธารณูปโภค-ทองคำ ส่วนพอร์ตเสริมสะสมเวียดนาม

SCB CIO มองตลาดหุ้นโลกจะมีความผันผวนเพิ่มขึ้นเมื่อเข้าสู่โค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากสถิติชี้ว่า ดัชนี VIX  จะเร่งตัวขึ้นเมื่อเข้าสู่ช่วง 4 เดือนสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง ขณะที่สถิติในอดีตบ่งชี้ดัชนี S&P500 มีแนวโน้มชะลอตัวในช่วงเดือนส.ค.- ก.ย. แนะกลยุทธ์ลงทุนในตลาดหุ้นเลือกหุ้นคุณภาพดีเติบโตสูงงบแข็งแกร่งยอดขายกำไรเติบโตยั่งยืนเช่นกลุ่มเทคโนโลยีพร้อมผสมผสานกับหุ้นกลุ่มที่มีความทนทานต่อภาวะตลาดผันผวนเช่นกลุ่มสาธารณูปโภค  สุขภาพและสินค้าจำเป็น พร้อมระวังลงทุนในหุ้นกลุ่มขนาดเล็กจากกำไรของกิจการของหุ้นขนาดเล็กค่อนข้างผันผวนและอิงกับเศรษฐกิจสหรัฐฯเป็นหลักซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากการที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังเข้าสู่ช่วงของการชะลอตัวลง สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ปานกลาง-สูง แนะลงทุนหุ้นเวียดนามจากดัชนีฯที่ได้แรงหนุนจากเศรษฐกิจที่เติบโตต่อเนื่อง

RELATED