ASPS มอง SET ไตรมาส 2 ผันผวน เป้าดัชนีปีนี้ 1,610-1,670 จุด

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส (ASPS) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงไตรมาส 2/2566 ยังผันผวน เพราะติดอยู่กับความกังวลดอกเบี้ยฯ ขาขึ้น ปัญหาระบบสถาบันการเงินและความเสี่ยงเศรษฐกิจเข้าสู่ Recession

โดยวงจรความกังวลมีจุดเริ่มต้นมาจากการเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางต่างๆเพื่อสกัดเงิน ซึ่งในช่วงไตรมาส 1/2566 เริ่มเห็นผลกระทบมายังภาคสถาบันการเงินสหรัฐฯ (SVB) และยุโรป (Credit Suisse) เริ่มประสบปัญหาสภาพคล่องก่อนที่ FED และ SNB จะเข้าช่วยเหลืออย่างทันท่วงที

ในมุมฝ่ายวิจัยฯ ประเมินปัญหาข้างต้นมีแนวโน้มยังมีความเสี่ยงขยายวงกว้างไปยังสถาบันการเงินต่างๆ หากต้นเหตุที่แท้จริงยังไม่ได้รับการแก้ไข ขณะที่อีกด้านหนึ่งยังเพิ่มความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯและยุโรปที่เข้าสู่ภาวะ Recession มากขึ้นซึ่งจะเป็นแรงกดดันต่อตลาดหุ้นโลกและตลาดหุ้นไทยคงหลีกเลี่ยงผลกระทบได้ยาก

อย่างไรตาม มีปัจจัยในประเทศที่มีน้ำหนักในทางบวกจากเศรษฐกิจไทยที่มีแนวโน้มเติบโตจากภาคการท่องเที่ยว การลงทุน และการบริโภคครัวเรือน โดยอ้างอิงคาดการณ์ ธปท. คาด GDP Growth 66F ขยายตัว +3.6% ดีกว่า GDP โลกที่ Consensus คาดโตเฉลี่ย 2.3%

รวมทั้งยังมีแรงหนุนจากกำไรบริษัทจดทะเบียนปี 2566 ที่ฝ่ายวิจัยฯคาดอยู่ที่ 1.12 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น EPS66F ที่ระดับ 91.8 บาท/หุ้น เติบโต 12.6%yoy เทียบกับหลายๆ ประเทศเติบโตไม่ถึง 2 หลัก เป็นแม่เหล็กดึงดูด Fund Flow กลับมาหาเรา รวมถึงความคาดหวังเชิงบวกต่อนโยบายใหม่ๆ จากการเลือกตั้ง หนุน SET Index ฟื้นกลับได้เป็นบางช่วงเวลาโดยกำหนดเป้าหมายดัชนีที่ 1,610-1,670 จุด

สำหระบกลยุทธ์การลงทุนแนะนำทยอยสะสมหุ้นเมื่อ SET Index อยู่ในระดับต่ำกว่า 1,610 จุด โดยเลือกหุ้นสภาพคล่องสูง (เป็นเป้าหมายของ Fund Flow) บวกกับกำไรมีแนวโน้มผ่านจุดเลวร้าย (Bottom Out) อย่าง ADVANC, AMATA, BGRIM, SNNP, JMT, STEC

LATEST NEWS

“Smarthome” สมาร์ทโฮมยืนหนึ่งเครื่องใช้ไฟฟ้าสำหรับทุกครอบครัว

เมื่อพูดถึงแแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน เชื่อว่าใครหลายๆ คน คงจะนึกถึงแบรนด์ “Smarthome” เป็น 1 ในคำตอบในใจอย่างแน่นอน ด้วยจุดเด่นของสินค้าที่แข็งแรง ทนทาน ดีไซน์ทันสมัยและราคาที่สามารถเข้าถึงได้ วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับแบรนด์ “Smarthome” กันให้มากยิ่งขึ้น

บิ๊กดีลสะเทือนวงการ! กรุงศรีฟินโนเวตจับมืออีฟราสตรัคเจอร์ เปิดฉากลงทุนมหาศาลปั้นกองทุนใหม่หนุนสตาร์ทอัพรายเล็กก้าวกระโดด พร้อมเปิด Accelerator ติดอาวุธเร่งสปีดสร้างการเติบโต

กรุงศรี ฟินโนเวต ร่วมกับ อีฟราสตรัคเจอร์ (Efra Structure) ของ ป้อม ภาวุธ ผู้บุกเบิกและคร่ำหวอดในวงการอีคอมเมิร์ซไทย เตรียมปั้นกองทุนยักษ์ “ฟินโน อีฟรา ไพรเวท อิควิตตี้ ทรัสต์” (Finno Efra Private Equity Trust) มุ่งลงทุนในสตาร์ทอัพไทยและอาเซียน งบประมาณมหาศาลกว่า 1,300 ล้านบาท (หรือกว่า 35 ล้านเหรียญสหรัฐ) ภายในระยะเวลา 4 ปี เผยเริ่มพูดคุยกับสตาร์ทอัพที่น่าสนใจแล้วราว 5-6 บริษัท พ่วงด้วยการเปิด Accelerator Program อย่างเป็นทางการ เพื่อปั้นสตาร์ทอัพระดับ Seed ถึง Pre-series A ให้เติบโตสู่ระดับ Series A ได้อย่างแข็งแกร่ง

SCB CIO มองตลาดหุ้นทั่วโลกผันผวน เมื่อเข้าสู่โค้งสุดท้ายเลือกตั้งสหรัฐฯ พอร์ตหลักแนะหุ้นกลุ่มเทคฯ-สุขภาพ- สาธารณูปโภค-ทองคำ ส่วนพอร์ตเสริมสะสมเวียดนาม

SCB CIO มองตลาดหุ้นโลกจะมีความผันผวนเพิ่มขึ้นเมื่อเข้าสู่โค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากสถิติชี้ว่า ดัชนี VIX  จะเร่งตัวขึ้นเมื่อเข้าสู่ช่วง 4 เดือนสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง ขณะที่สถิติในอดีตบ่งชี้ดัชนี S&P500 มีแนวโน้มชะลอตัวในช่วงเดือนส.ค.- ก.ย. แนะกลยุทธ์ลงทุนในตลาดหุ้นเลือกหุ้นคุณภาพดีเติบโตสูงงบแข็งแกร่งยอดขายกำไรเติบโตยั่งยืนเช่นกลุ่มเทคโนโลยีพร้อมผสมผสานกับหุ้นกลุ่มที่มีความทนทานต่อภาวะตลาดผันผวนเช่นกลุ่มสาธารณูปโภค  สุขภาพและสินค้าจำเป็น พร้อมระวังลงทุนในหุ้นกลุ่มขนาดเล็กจากกำไรของกิจการของหุ้นขนาดเล็กค่อนข้างผันผวนและอิงกับเศรษฐกิจสหรัฐฯเป็นหลักซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากการที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังเข้าสู่ช่วงของการชะลอตัวลง สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ปานกลาง-สูง แนะลงทุนหุ้นเวียดนามจากดัชนีฯที่ได้แรงหนุนจากเศรษฐกิจที่เติบโตต่อเนื่อง

RELATED