Bitcoin ทำราคาต่ำสุดในรอบ 2 เดือน สินทรัพย์เสี่ยงปรับฐาน SpaceX ขายบิตคอยน์

สกุลเงินดิจิตอลราคาตกต่ำต่อเนื่อง พร้อมกับทรัพย์สินเสี่ยงระดับโลกอื่นๆ เนื่องจากนักลงทุนคาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะสูงขึ้นไปอีกนาน รายงานเรื่องการขาย Bitcoin ที่ถืออยู่ของ Elon Musk ในนาม SpaceX ได้เพิ่มความกังวลนี้ด้วย


ราคาบิตคอยน์ลดลง 4.5% ในคืนวันพฤหัสบดี เป็นการปรับตัวลงในระดับสัปดาห์ที่ใหญ่ที่สุดในรอบสามเดือน หลังจากราคาสัมผัสจุดต่ำสุดที่ 25,314 เหรียญดอลลาร์ บิตคอยน์เริ่มไหลลงจากราคา 28,947 เหรียญ เนื่องจากราคาผลตอบแทนของพันธบัตรโลกสูงที่สุดในรอบหลายปี จึงลดความน่าสนใจของการลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือก เช่น โทเค็นดิจิทัล


การที่ราคาลงอย่างกะทันหัน หลังจากสัปดาห์ที่แล้วมีโวลุ่มการซื้อขายเบาบาง เป็นเหตุให้นักลงทุนเกิดการพอร์ตแตกเสียหาย โดนบังคับปิด position และ liquidate เป็นจำนวนมากในตลาดแลกเปลี่ยน มากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ถูกบังคับขายในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ตามข้อมูลจาก Coinglass

รายงานจาก Wall Street Journal อ้างถึงเอกสารบริษัท SpaceX รายงานว่าได้ขายสินทรัพย์ Bitcoin ออกไปเป็นมูลค่า 373 ล้านดอลลาร์ ก็มีผลกระทบต่ออารมณ์และความคิดของนักลงทุนส่วนใหญ่ด้วย

“บิตคอยน์ขาดปัจจัยที่จะมากระตุ้นให้ราคาสูงขึ้นในระยะสั้น การที่ราคาตกลงไปต่ำกว่า 25,000 ดอลลาร์จะทำให้ราคากลายเป็นขาลงได้ และหากราคาสินทรัพย์เสี่ยงระดับโลกยังคงปรับตัวต่ำลงต่อไป บิตคอยน์อาจจะเผชิญแรงขายเพิ่มอีก” กล่าวโดย Josh Gilbert, นักวิเคราะห์ตลาดที่บริษัทการซื้อขายและการลงทุนสินทรัพย์ eToro

รายงานของ WSJ ไม่ได้บอกชัดเจนว่า SpaceX ได้ขาย Bitcoin ออกในช่วงเวลาไหน

ในขณะที่ตลาดทุนทั่วโลกกำลังปรับตัวลดลงเนื่องจากดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง ดัชนีเหรียญดิจิทัล 100 อันดับแรกราคาลงมามากกว่า 5% ซึ่งมากกว่าการลดลงของดัชนีหุ้นในภูมิภาคแค่ 0.2%


แนวรับถัดไปสำหรับบิตคอยน์ คือ 25,000 ดอลลาร์และหากราคาลงไปอีก มีโอกาสจะถูกขายอีก โทเค็นที่เล็กกว่าก็ตกลงมา – Ethereum ราคาลดลง 2.3% คาดาโน(Cardano) และโซลานา (Solana) ลดลง 4.4%

บัญชีที่โดนคำสั่งบังคับขาย(Liquidate) มากที่สุดเกิดขึ้นบน Binance จำนวน 55.92 ล้านดอลลาร์ ตามข้อมูลจากเว็บไซต์ของ Coinglass

การปรับตัวลงในครั้งนี้ แทบจะหักล้างกำไรที่ขึ้นมาจากข่าว บริษัท BlackRock Inc. ยื่นขอใบอนุญาติทำกองทุนบิตคอยน์ ETF ในวันที่ 15 มิถุนายน หลังจากราคาเพิ่มขึ้นมา 72% ในไตรมาสแรก ตั้งแต่สิ้นสุดเดือนมีนาคม ราคาบิตคอยน์ลดลงมาเกือบ 7% โดย ลงมา 64% ในปีที่แล้ว เนื่องจากคดีปัญหาในอุตสาหกรรมและการล้มละลายของเหรียญต่างๆ

แต่ก็มีมุมมองในแง่ดีสู่ตลาดหลังจากที่ Bloomberg News รายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC) พร้อมที่จะอนุญาตให้มีกองทุนเทรดคริปโตแรกในรูปแบบสินทรัพย์ Ether futures

การลงของราคาบิตคอยน์เกิดขึ้นหลังจากราคาแกว่งตัวแคบมาหลายเดือน ดัชนีวัดการเปลี่ยนแปลงราคาของสกุลเงินดิจิทัลมีแนวโน้มเป็นขาลง โดยความผันผวนในช่วง 90 วันมีระดับต่ำสุดตั้งแต่ปี 2016 ตามข้อมูลที่รวบรวมโดย Bloomberg


“ต้นสัปดาห์มีความคาดหวังว่าการแก้ไข Grayscale Bitcoin ETF จะเกิดขึ้น แต่ในที่สุดก็ไม่มีข้อมูลออกมาเลย” นาย Shiliang Tang หัวหน้าฝ่ายการลงทุนของบริษัทการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล LedgerPrime กล่าว “นอกจากนี้ตลาดทุนโลกยังมีความอ่อนแอตลอดสัปดาห์ ราคาตลาดหุ้น S&P500(SPX) และหุ้นเทคโนโลยีที่ถูกเทขายออกมาในช่วงนี้ อัตราดอกเบี้ย 10 ปีได้ทำจุดสูงสุดใหม่ ดอลลาร์ก็แข็งค่า ความน่าเชื่อถือ (Credit) และเศรษฐกิจของจีนอ่อนแอ เป็นข้อมูลเชิงลบสำหรับสินทรัพย์เสี่ยง”

LATEST NEWS

“Smarthome” สมาร์ทโฮมยืนหนึ่งเครื่องใช้ไฟฟ้าสำหรับทุกครอบครัว

เมื่อพูดถึงแแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน เชื่อว่าใครหลายๆ คน คงจะนึกถึงแบรนด์ “Smarthome” เป็น 1 ในคำตอบในใจอย่างแน่นอน ด้วยจุดเด่นของสินค้าที่แข็งแรง ทนทาน ดีไซน์ทันสมัยและราคาที่สามารถเข้าถึงได้ วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับแบรนด์ “Smarthome” กันให้มากยิ่งขึ้น

บิ๊กดีลสะเทือนวงการ! กรุงศรีฟินโนเวตจับมืออีฟราสตรัคเจอร์ เปิดฉากลงทุนมหาศาลปั้นกองทุนใหม่หนุนสตาร์ทอัพรายเล็กก้าวกระโดด พร้อมเปิด Accelerator ติดอาวุธเร่งสปีดสร้างการเติบโต

กรุงศรี ฟินโนเวต ร่วมกับ อีฟราสตรัคเจอร์ (Efra Structure) ของ ป้อม ภาวุธ ผู้บุกเบิกและคร่ำหวอดในวงการอีคอมเมิร์ซไทย เตรียมปั้นกองทุนยักษ์ “ฟินโน อีฟรา ไพรเวท อิควิตตี้ ทรัสต์” (Finno Efra Private Equity Trust) มุ่งลงทุนในสตาร์ทอัพไทยและอาเซียน งบประมาณมหาศาลกว่า 1,300 ล้านบาท (หรือกว่า 35 ล้านเหรียญสหรัฐ) ภายในระยะเวลา 4 ปี เผยเริ่มพูดคุยกับสตาร์ทอัพที่น่าสนใจแล้วราว 5-6 บริษัท พ่วงด้วยการเปิด Accelerator Program อย่างเป็นทางการ เพื่อปั้นสตาร์ทอัพระดับ Seed ถึง Pre-series A ให้เติบโตสู่ระดับ Series A ได้อย่างแข็งแกร่ง

SCB CIO มองตลาดหุ้นทั่วโลกผันผวน เมื่อเข้าสู่โค้งสุดท้ายเลือกตั้งสหรัฐฯ พอร์ตหลักแนะหุ้นกลุ่มเทคฯ-สุขภาพ- สาธารณูปโภค-ทองคำ ส่วนพอร์ตเสริมสะสมเวียดนาม

SCB CIO มองตลาดหุ้นโลกจะมีความผันผวนเพิ่มขึ้นเมื่อเข้าสู่โค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากสถิติชี้ว่า ดัชนี VIX  จะเร่งตัวขึ้นเมื่อเข้าสู่ช่วง 4 เดือนสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง ขณะที่สถิติในอดีตบ่งชี้ดัชนี S&P500 มีแนวโน้มชะลอตัวในช่วงเดือนส.ค.- ก.ย. แนะกลยุทธ์ลงทุนในตลาดหุ้นเลือกหุ้นคุณภาพดีเติบโตสูงงบแข็งแกร่งยอดขายกำไรเติบโตยั่งยืนเช่นกลุ่มเทคโนโลยีพร้อมผสมผสานกับหุ้นกลุ่มที่มีความทนทานต่อภาวะตลาดผันผวนเช่นกลุ่มสาธารณูปโภค  สุขภาพและสินค้าจำเป็น พร้อมระวังลงทุนในหุ้นกลุ่มขนาดเล็กจากกำไรของกิจการของหุ้นขนาดเล็กค่อนข้างผันผวนและอิงกับเศรษฐกิจสหรัฐฯเป็นหลักซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากการที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังเข้าสู่ช่วงของการชะลอตัวลง สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ปานกลาง-สูง แนะลงทุนหุ้นเวียดนามจากดัชนีฯที่ได้แรงหนุนจากเศรษฐกิจที่เติบโตต่อเนื่อง

RELATED