SCB CIO แนะทยอยสะสมหุ้นเกาหลีใต้ Valuation ต่ำ-รับกำไรบริษัทจดทะเบียนโตโดดเด่น

SCB CIO แนะทยอยสะสม หุ้นเกาหลีใต้ จาก 4 ปัจจัยหนุน กำไรต่อหุ้นมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จากยอดขายเซมิคอนดักเตอร์ที่โต Valuation ยังต่ำ อานิสงส์จากนโยบายเพิ่มมูลค่าบริษัท และฟันด์โฟลว์ไหลเข้าแล้ว 14,000 ล้านดอลลาร์

ดร.กำพล  อดิเรกสมบัติ  ผู้อำนวยการอาวุโส และหัวหน้าทีม SCB Chief Investment Office (SCB CIO)  ธนาคารไทยพาณิชย์  เปิดเผยว่า การลงทุนในตลาดหุ้นเกาหลีใต้ มีความน่าสนใจ จากวัฏจักรการส่งออกที่ฟื้นตัว ส่งผลให้เศรษฐกิจเกาหลีใต้กลับมาขยายตัวอีกครั้ง โดยในปีนี้ ผลสำรวจนักวิเคราะห์จาก Bloomberg Consensus คาดการณ์ว่า GDP เกาหลีใต้ในปี 2567-2568 จะขยายตัว 2.2% สอดคล้องกับมุมมองของ SCB CIO ที่คาดว่า GDP เกาหลีใต้ในปีนี้จะขยายตัวได้ดีกว่าปี 2566 ที่ขยายตัว 1.4% ขณะที่ ธนาคารกลางสาธารณรัฐเกาหลีใต้ (BOK) คาดการณ์เงินเฟ้อทั่วไปในปีนี้ อยู่ที่ 2.6% สูงกว่าระดับเป้าหมายระยะยาวที่ 2% ทำให้เรามองว่า BOK มีแนวโน้มจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับปัจจุบัน 3.5% ต่อไป และน่าจะเริ่มปรับลดดอกเบี้ยในช่วงครึ่งหลังของปีนี้

เมื่อพิจารณาโครงสร้างดัชนีตลาดหุ้นเกาหลีใต้ หรือ KOSPI พบว่า ดัชนีมีสัดส่วนหุ้นอิเล็กทรอนิกส์สูงที่สุด ที่ประมาณ 39% ของดัชนี    โดยหุ้น Samsung Electronices มีน้ำหนักสูงถึง 20% ของดัชนี  และเมื่อรวมหุ้นตระกูลธุรกิจขนาดใหญ่ในเกาหลีใต้ (Chaebols) ทั้งหมดจะประมาณ 60% ของดัชนี   ทั้งนี้  นักลงทุนในตลาดส่วนใหญ่ยังเป็นนักลงทุนรายย่อยในประเทศถึง 66% ของมูลค่าการซื้อขายในตลาด สะท้อนว่ารายย่อยมีส่วนร่วมในตลาดค่อนข้างมาก 

SCB CIO มองว่า หุ้นเกาหลีใต้ มีความน่าสนใจลงทุน ด้วยปัจจัยสนับสนุน 4 ด้าน ได้แก่

1. อัตราการเติบโตของกำไรต่อหุ้น (EPS growth) ปี 2567 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากกำไรของกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ที่มีน้ำหนักมากบนดัชนี ที่ฟื้นตัวค่อนข้างดีตามการส่งออกเกาหลีใต้ และยอดขายเซมิคอนดักเตอร์ที่เติบโต

2. มูลค่า (Valuation) ยังน่าสนใจ โดยราคาต่อกำไรต่อหุ้นในอนาคต (12M Forward P/E) ของ KOSPI อยู่ที่ 10.6 เท่า หรือ -0.3 S.D. เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ย 5 ปี ขณะที่ ราคาต่อมูลค่าทางบัญชี (P/BV) อยู่ที่ 0.89 เท่า หรือ -0.4 S.D. เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ย 5 ปี

3. อานิสงส์นโยบายเพิ่มมูลค่าบริษัท (Coporate Value Up) ที่แม้จะเป็นมาตรการตามความสมัครใจ แต่มีสิทธิพิเศษทางภาษีให้ คาดว่า จะส่งผลดีมากที่สุดกับหุ้นที่ซื้อขายอยู่บน valuation ที่ต่ำกว่าตลาด มีเงินสดพร้อมสำหรับการซื้อหุ้นคืน และ มีการจ่ายปันผลเพิ่มเติม

4. นักลงทุนต่างชาติกลับเข้าซื้อสุทธิบนดัชนี KOSPI โดยนับตั้งแต่เดือน พ.ย. 2566 กลับเข้าซื้อสุทธิแล้วประมาณ 14,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สูงที่สุด นับตั้งแต่ช่วงปี 2564

อย่างไรก็ตาม  ยังมีความเสี่ยงหลักสำหรับการลงทุนตลาดหุ้นเกาหลีใต้ที่นักลงทุนควรติดตาม ได้แก่ ความเสี่ยงจากเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าหลักเติบโตน้อยกว่าที่คาด เนื่องจากเกาหลีใต้พึ่งพาการส่งออกเป็นหลัก โดยคู่ค้าสำคัญ ได้แก่ จีน สหรัฐฯ และเวียดนาม จึงมีความเสี่ยงที่การส่งออกจะได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจคู่ค้าหลักเติบโตน้อยกว่าที่คาด และอาจทำให้กำไรบริษัทจดทะเบียนต่ำกว่าที่คาดการณ์ได้ และความเสี่ยงจากการเลือกตั้งทั่วไปในเกาหลีใต้ที่จะมีขึ้นวันที่ 10 เม.ย. 2567 อาจทำให้เกิดความกังวลบนนโยบายเพิ่มมูลค่าบริษัทจดทะเบียน ส่งผลให้เกิดความผันผวนในตลาดหุ้นได้

ทั้งนี้ ด้วยปัจจัยบวกที่มีมากกว่าปัจจัยลบ ทำให้ SCB CIO มีมุมมอง Slightly Positive หรือ ทยอยลงทุนได้บนตลาดหุ้นเกาหลีใต้ โดยเราแนะนำให้ ทยอยลงทุนบน Opportunistic Portfolio ซึ่งเป็นพอร์ตลงทุนส่วนเพิ่มโอกาส เนื่องจาก ปัจจัยบวกด้านกำไรบริษัทจดทะเบียนในปี 2567 ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างมีนัย ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และวัฏจักรเซมิคอนดักเตอร์ Valuation ที่ยังอยู่ในระดับไม่แพง ประกอบกับนโยบายเพิ่มมูลค่าบริษัท มีแนวโน้มส่งผลบวกต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน 

LATEST NEWS

“Smarthome” สมาร์ทโฮมยืนหนึ่งเครื่องใช้ไฟฟ้าสำหรับทุกครอบครัว

เมื่อพูดถึงแแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน เชื่อว่าใครหลายๆ คน คงจะนึกถึงแบรนด์ “Smarthome” เป็น 1 ในคำตอบในใจอย่างแน่นอน ด้วยจุดเด่นของสินค้าที่แข็งแรง ทนทาน ดีไซน์ทันสมัยและราคาที่สามารถเข้าถึงได้ วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับแบรนด์ “Smarthome” กันให้มากยิ่งขึ้น

บิ๊กดีลสะเทือนวงการ! กรุงศรีฟินโนเวตจับมืออีฟราสตรัคเจอร์ เปิดฉากลงทุนมหาศาลปั้นกองทุนใหม่หนุนสตาร์ทอัพรายเล็กก้าวกระโดด พร้อมเปิด Accelerator ติดอาวุธเร่งสปีดสร้างการเติบโต

กรุงศรี ฟินโนเวต ร่วมกับ อีฟราสตรัคเจอร์ (Efra Structure) ของ ป้อม ภาวุธ ผู้บุกเบิกและคร่ำหวอดในวงการอีคอมเมิร์ซไทย เตรียมปั้นกองทุนยักษ์ “ฟินโน อีฟรา ไพรเวท อิควิตตี้ ทรัสต์” (Finno Efra Private Equity Trust) มุ่งลงทุนในสตาร์ทอัพไทยและอาเซียน งบประมาณมหาศาลกว่า 1,300 ล้านบาท (หรือกว่า 35 ล้านเหรียญสหรัฐ) ภายในระยะเวลา 4 ปี เผยเริ่มพูดคุยกับสตาร์ทอัพที่น่าสนใจแล้วราว 5-6 บริษัท พ่วงด้วยการเปิด Accelerator Program อย่างเป็นทางการ เพื่อปั้นสตาร์ทอัพระดับ Seed ถึง Pre-series A ให้เติบโตสู่ระดับ Series A ได้อย่างแข็งแกร่ง

SCB CIO มองตลาดหุ้นทั่วโลกผันผวน เมื่อเข้าสู่โค้งสุดท้ายเลือกตั้งสหรัฐฯ พอร์ตหลักแนะหุ้นกลุ่มเทคฯ-สุขภาพ- สาธารณูปโภค-ทองคำ ส่วนพอร์ตเสริมสะสมเวียดนาม

SCB CIO มองตลาดหุ้นโลกจะมีความผันผวนเพิ่มขึ้นเมื่อเข้าสู่โค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากสถิติชี้ว่า ดัชนี VIX  จะเร่งตัวขึ้นเมื่อเข้าสู่ช่วง 4 เดือนสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง ขณะที่สถิติในอดีตบ่งชี้ดัชนี S&P500 มีแนวโน้มชะลอตัวในช่วงเดือนส.ค.- ก.ย. แนะกลยุทธ์ลงทุนในตลาดหุ้นเลือกหุ้นคุณภาพดีเติบโตสูงงบแข็งแกร่งยอดขายกำไรเติบโตยั่งยืนเช่นกลุ่มเทคโนโลยีพร้อมผสมผสานกับหุ้นกลุ่มที่มีความทนทานต่อภาวะตลาดผันผวนเช่นกลุ่มสาธารณูปโภค  สุขภาพและสินค้าจำเป็น พร้อมระวังลงทุนในหุ้นกลุ่มขนาดเล็กจากกำไรของกิจการของหุ้นขนาดเล็กค่อนข้างผันผวนและอิงกับเศรษฐกิจสหรัฐฯเป็นหลักซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากการที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังเข้าสู่ช่วงของการชะลอตัวลง สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ปานกลาง-สูง แนะลงทุนหุ้นเวียดนามจากดัชนีฯที่ได้แรงหนุนจากเศรษฐกิจที่เติบโตต่อเนื่อง

RELATED