THREL โชว์ผลงานไตรมาส 2/23 กำไรสุทธิ 32 ลบ.-เบี้ยรับรวมเกือบพันล้าน

THREL โชว์ผลงานไตรมาส 2/2566 พลิกกำไรจากไตรมาสแรก 32 ล้านบาท เบี้ยประกันภัยต่อรับโตต่อเนื่องเกือบ 1 พันล้านบาทหนุนรายได้เบี้ยประกันภัยต่อสุทธิแตะ 787 ล้านบาท ตามงานประกันสุขภาพที่ยังขยายตัวดีขณะที่ Combined Ratio ลดเหลือ 96.3% ส่งซิกเดินหน้าคิดค้นพัฒนาผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่รองรับด้านจิตเวชและกลุ่มผู้สูงวัย ปักธงเบี้ยรับรวมปี 2566 เติบโต 4-5% สูงกว่าภาพรวมอุตสาหกรรมพร้อมรักษาระดับ Combined Ratio ไว้ที่ 95% 

นายสุทธิ รจิตรังสรรค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยรีประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ THREL เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2 ปี 2566 ว่า บริษัทฯ พลิกมีกำไรสุทธิจำนวน 32 ล้านบาท เทียบจากไตรมาส 1/2566 ที่ขาดทุนราว 15 ล้านบาท โดยมีกำไรจากการรับประกันภัย 20 ล้านบาท ตามเบี้ยประกันภัยต่อรับที่เติบโตต่อเนื่องกว่า 50% จากไตรมาสก่อนหน้าแตะ 998 ล้านบาท โดยเบี้ยประกันภัยต่อที่ถือเป็นรายได้สุทธิเติบโตแตะ 787 ล้านบาท ตามการเติบโตของงานประกันสุขภาพ ทั้งแบบรายบุคคล และแบบรายกลุ่ม ส่งผลให้ภาพรวมครึ่งแรกของปี 2566 บริษัทฯมีเบี้ยประกันภัยต่อรับเติบโตแตะ 1,666 ล้านบาท และเบี้ยประกันภัยต่อที่ถือเป็นรายได้สุทธิเติบโตแตะ 1,499 ล้านบาท 

ขณะที่รายได้จากการลงทุนสุทธิงวดไตรมาส 2/2566 เพิ่มขึ้น 68% จากไตรมาสก่อน อยู่ที่ 24 ล้านบาท สำหรับค่าใช้จ่ายในการรับประกันภัยรวมอยู่ในระดับใกล้เคียงกับไตรมาสแรกที่ 767 ล้านบาท โดยค่าสินไหมทดแทน (เคลม) อยู่ที่ 540 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสก่อนราว 1% ขณะที่ค่าบำเหน็จสุทธิเพิ่มขึ้นเล็กน้อยอยู่ที่ 180 ล้านบาท ส่งผลให้ Combined Ratio (COR) ปรับลดลงเหลือ 96.3% จากไตรมาสแรกอยู่ที่ระดับ 108.2% 

นายสุทธิ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับภาพรวมผลงานช่วงครึ่งหลังของปี 2566 มีแนวโน้มเติบโตดีต่อเนื่อง  โดยบริษัทฯ ยังคงเดินหน้าคิดค้นพัฒนาผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ๆ ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะกลุ่มมากขึ้น โดยเฉพาะด้านจิตเวช และกลุ่มผู้สูงวัย เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเบื้องต้นตั้งเป้าเบี้ยประกันภัยต่อรับรวมปี 2566 เติบโต 4-5% สูงกว่าภาพรวมอุตสาหกรรมประกันชีวิตที่คาดการณ์เติบโตได้ราว 0-2% พร้อมรักษาระดับ Combined Ratio (COR) ไว้ที่ 95%

“บริษัทฯยังคงเดินหน้ามองโอกาสใหม่ๆในการต่อจิ๊กซอว์ขับเคลื่อนการเติบโต ภายใต้การให้ความสำคัญในการคุมเข้มความเสี่ยงของการรับงาน เพื่อควบคุมคุณภาพผลการรับประกันภัยรักษา Combined Ratio ให้อยู่ที่ระดับ 95% ตามเป้าหมาย” นายสุทธิกล่าว 

 

LATEST NEWS

“Smarthome” สมาร์ทโฮมยืนหนึ่งเครื่องใช้ไฟฟ้าสำหรับทุกครอบครัว

เมื่อพูดถึงแแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน เชื่อว่าใครหลายๆ คน คงจะนึกถึงแบรนด์ “Smarthome” เป็น 1 ในคำตอบในใจอย่างแน่นอน ด้วยจุดเด่นของสินค้าที่แข็งแรง ทนทาน ดีไซน์ทันสมัยและราคาที่สามารถเข้าถึงได้ วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับแบรนด์ “Smarthome” กันให้มากยิ่งขึ้น

บิ๊กดีลสะเทือนวงการ! กรุงศรีฟินโนเวตจับมืออีฟราสตรัคเจอร์ เปิดฉากลงทุนมหาศาลปั้นกองทุนใหม่หนุนสตาร์ทอัพรายเล็กก้าวกระโดด พร้อมเปิด Accelerator ติดอาวุธเร่งสปีดสร้างการเติบโต

กรุงศรี ฟินโนเวต ร่วมกับ อีฟราสตรัคเจอร์ (Efra Structure) ของ ป้อม ภาวุธ ผู้บุกเบิกและคร่ำหวอดในวงการอีคอมเมิร์ซไทย เตรียมปั้นกองทุนยักษ์ “ฟินโน อีฟรา ไพรเวท อิควิตตี้ ทรัสต์” (Finno Efra Private Equity Trust) มุ่งลงทุนในสตาร์ทอัพไทยและอาเซียน งบประมาณมหาศาลกว่า 1,300 ล้านบาท (หรือกว่า 35 ล้านเหรียญสหรัฐ) ภายในระยะเวลา 4 ปี เผยเริ่มพูดคุยกับสตาร์ทอัพที่น่าสนใจแล้วราว 5-6 บริษัท พ่วงด้วยการเปิด Accelerator Program อย่างเป็นทางการ เพื่อปั้นสตาร์ทอัพระดับ Seed ถึง Pre-series A ให้เติบโตสู่ระดับ Series A ได้อย่างแข็งแกร่ง

SCB CIO มองตลาดหุ้นทั่วโลกผันผวน เมื่อเข้าสู่โค้งสุดท้ายเลือกตั้งสหรัฐฯ พอร์ตหลักแนะหุ้นกลุ่มเทคฯ-สุขภาพ- สาธารณูปโภค-ทองคำ ส่วนพอร์ตเสริมสะสมเวียดนาม

SCB CIO มองตลาดหุ้นโลกจะมีความผันผวนเพิ่มขึ้นเมื่อเข้าสู่โค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากสถิติชี้ว่า ดัชนี VIX  จะเร่งตัวขึ้นเมื่อเข้าสู่ช่วง 4 เดือนสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง ขณะที่สถิติในอดีตบ่งชี้ดัชนี S&P500 มีแนวโน้มชะลอตัวในช่วงเดือนส.ค.- ก.ย. แนะกลยุทธ์ลงทุนในตลาดหุ้นเลือกหุ้นคุณภาพดีเติบโตสูงงบแข็งแกร่งยอดขายกำไรเติบโตยั่งยืนเช่นกลุ่มเทคโนโลยีพร้อมผสมผสานกับหุ้นกลุ่มที่มีความทนทานต่อภาวะตลาดผันผวนเช่นกลุ่มสาธารณูปโภค  สุขภาพและสินค้าจำเป็น พร้อมระวังลงทุนในหุ้นกลุ่มขนาดเล็กจากกำไรของกิจการของหุ้นขนาดเล็กค่อนข้างผันผวนและอิงกับเศรษฐกิจสหรัฐฯเป็นหลักซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากการที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังเข้าสู่ช่วงของการชะลอตัวลง สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ปานกลาง-สูง แนะลงทุนหุ้นเวียดนามจากดัชนีฯที่ได้แรงหนุนจากเศรษฐกิจที่เติบโตต่อเนื่อง

RELATED