พาณิชย์เผยเงินเฟ้อ เม.ย. +2.67% ต่ำสุดในอาเซียน-ต่ำติดอันดับ 14 โลก

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (CPI) เดือน เม.ย.2566 อยู่ที่ระดับ 107.96 เพิ่มขึ้น 2.67% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และเพิ่มขึ้น 0.19% จากเดือนก่อน ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ย 4 เดือนแรกของปี 2566 เพิ่มขึ้น 3.58%

ทั้งนี้ เงินเฟ้อในเดือน เม.ย.2566 ต่ำกว่าที่ตลาดคาดที่ระดับ 2.7% และชะลอตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ต่ำสุดในรอบ 16 เดือน สาเหตุสำคัญมาจากการลดลงของราคาน้ำมันเชื้อเพลิง และสินค้าในหมวดอาหารที่ราคาชะลอตัว ชี้ให้เห็นว่าสถานการณ์เงินเฟ้อของไทยในปีนี้คลี่คลายอย่างต่อเนื่อง

เมื่อพิจารณาเงินเฟ้อของไทยเทียบกับต่างประเทศ (ข้อมูลล่าสุดเดือน มี.ค.2566) พบว่า เงินเฟ้อไทยต่ำเป็นอันดับที่ 14 จาก 133 เขตเศรษฐกิจที่มีการประกาศตัวเลข ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่ดีกว่าหลายเขตเศรษฐกิจ อาทิ สหรัฐอเมริกา อิตาลี สหราชอาณาจักร เม็กซิโก อินเดีย ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ และอยู่ระดับต่ำที่สุดในอาเซียน จาก 7 ประเทศที่ประกาศตัวเลข ทั้ง สปป.ลาว ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และเวียดนาม

ส่วนดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) เดือน เม.ย.2566 อยู่ที่ 104.27 เพิ่มขึ้น 1.66% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 0.05% จากเดือนก่อน ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน เฉลี่ย 4 เดือนแรกของปี 2566 เพิ่มขึ้น 2.09%

สำหรับแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อเดือน พ.ค.2566 คาดว่าจะชะลอตัวลงค่อนข้างมาก และอาจจะอยู่ในระดับไม่เกิน 2% โดยสาเหตุสำคัญมาจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่อยู่ในระดับต่ำกว่าปีที่ผ่านมา ขณะที่ราคาสินค้าและบริการบางรายการชะลอตัว และบางรายการเริ่มทรงตัว

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะมีแนวโน้มชะลอตัว และคาดว่าจะอยู่ในกรอบเป้าหมายที่กำหนด แต่ยังมีปัจจัยที่อาจทำให้เงินเฟ้อขยายตัวมากกว่าที่คาดไว้ อาทิ ราคาก๊าซหุงต้มที่ยังอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นต้นทุนการผลิตสำคัญปัญหาภัยแล้ง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อปริมาณและราคาสินค้าเกษตร อุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากภาคการท่องเที่ยวและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ซึ่งจะต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากปัจจัยเหล่านี้จะส่งผลต่ออัตราเงินเฟ้ออย่างมีนัยสำคัญ

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์คาดการณ์อัตราเงินเฟ้อทั่วไป ปี 2566 อยู่ที่ระหว่าง 1.7-2.7% (ค่ากลาง 2.2%) และหากสถานการณ์เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญจะมีการทบทวนอีกครั้ง

LATEST NEWS

GULF-INTUCH ประกาศควบรวมกิจการ เล็งตั้งบริษัทใหม่ไตรมาส 2 ปีหน้า

บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (GULF) และบริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (INTUCH) ประกาศควบรวมกิจการ เพื่อเป็นการปรับโครงสร้างของบริษัทที่เกี่ยวข้องให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการดำเนินการในการบริหารจัดการและการลงทุนในอนาคต รวมทั้งเพื่อลดความซ้ำซ้อนของโครงสร้างการถือหุ้นและต่อยอดโอกาสเติบโตในธุรกิจพลังงาน & โครงสร้างพื้นฐาน และธุรกิจดิจิทัล

InnovestX จับกลุ่ม Ultra High Net Worth ลุยตลาด Private Fund อย่างต่อเนื่องดันฐานลูกค้าโตกว่า 900%

InnovestX จับกลุ่ม Ultra High Net Worth ลุยตลาด Private Fund อย่างต่อเนื่องดันฐานลูกค้าโตกว่า 900% สร้างผลประกอบการชนะทุกตลาดที่เข้าลงทุนในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา 

RELATED