กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทยว่า การส่งออกของไทยในเดือน มี.ค.2566 มีมูลค่า 27,654 ล้านเหรียญสหรัฐ หดตัว 4.2% ส่วนการนำเข้า มีมูลค่า 24,935 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 7.1% ส่งผลให้ในเดือน มี.ค. เกินดุลการค้า 2,718 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นการกลับมาเกินดุลการค้าเป็นครั้งแรกในรอบ 12 เดือน
ทั้งนี้ การส่งออกของไทยในเดือน มี.ค.2566 แม้จะยังหดตัว แต่มูลค่าการส่งออกถือว่าอยู่ในระดับสูง เนื่องจากการขยายตัวของการส่งออกกลุ่มสินค้าเกษตร เพราะเป็นช่วงฤดูกาลผลไม้ จึงทำให้มีการส่งออกไปตลาดจีนสูง ขยายตัวได้ถึง 2 หลัก นอกจากนี้ การส่งออกสินค้าไก่สดแช่เย็นแช่แข็ง ก็ขยายตัวได้ดี ซึ่งในภาพรวมแม้การส่งออกเดือนมี.ค.จะติดลบ แต่สินค้าหลายรายการสามารถพลิกกลับมาเป็นบวกได้
สำหรับการส่งออกไทย 3 เดือนแรกของปี 2566 มีมูลค่ารวม 70,280 ล้านเหรียญสหรัฐ หดตัว 4.5% เส่วนการนำเข้า มีมูลค่า 73,324 ล้านเหรียญสหรัฐ หดตัว 0.5% ส่งผลให้ 3 เดือนแรก ไทยขาดดุลการค้า 3,044 ล้านเหรียญสหรัฐ
ส่วนแนวโน้มการส่งออกในระยะถัดไปนั้น ภาพรวมเศรษฐกิจโลกยังอยู่ในภาวะชะลอตัว เนื่องจากแรงกดดันด้านอุปสงค์ ทั้งจากอัตราเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยในแต่ละภูมิภาคของโลกยังอยู่ในระดับสูง ภาวะวิกฤตของสถาบันการเงิน ยังเป็นปัจจัยบั่นทอนต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค และภาคธุรกิจ รวมไปถึงความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่ส่งผลต่อผันผวนของราคาพลังงาน
อย่างไรก็ตาม จากการดำเนินงานของกระทรวงพาณิชย์ในไตรมาส 1/2566 ทั้งการรื้อฟื้นความสัมพันธ์และการเปิดตลาดใหม่ในกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง และการทำความตกลงทางการค้าในระดับท้องถิ่นกับตลาดศักยภาพในจีน เกาหลีใต้ และอินเดีย ช่วยสนับสนุนการนำรายได้เข้าสู่ประเทศ และคาดว่าจะช่วยประคับประคองการส่งออกของไทยให้ผ่านพ้นภาวะการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกได้
โดยกระทรวงพาณิชย์ จะมีการประชุมทูตพาณิชย์ และ กรอ.พาณิชย์ ในวันที่ 23 พ.ค.นี้ ซึ่งจะร่วมกันกำหนดแผนระยะ 2 ในการเร่งรัดการส่งออกของไทย และร่วมกันกำหนดทิศทางต่างๆ เพื่อทำให้การส่งออกของไทยในปีนี้ยังมีการขยายตัวเป็นบวกได้ตามเป้าหมายที่วางไว้
ขณะเดียวกัน ในปี 2566 กระทรวงพาณิชย์จะผลักดันให้การส่งออกของไทยเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ 1-2% การที่จะทำให้การส่งออกในปีนี้ ขยายตัวได้ในระดับดังกล่าวนั้น ในแต่ละเดือนมูลค่าการส่งออกจะต้องได้เฉลี่ย 24,500 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยกระทรวงพาณิชย์จะทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับภาคเอกชนผู้ส่งออก ซึ่งจะทำให้การส่งออกเป็นไปได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ แม้หลายหน่วยงานจะมองว่าปีนี้มีโอกาสที่การส่งออกไทยจะไม่ขยายตัว หรือติดลบก็ตาม