SKR เปิดงบ 3Q/67 กวาดรายได้ 1,675 ลบ. ตั้งเป้ารายได้ทั้งปีทะลุ 6,200 ลบ. เน้นสถาบันการแพทย์เฉพาะทางโตเด่น

SKR เปิดเผยผลงาน Q3/67 รายได้รวม 1,675.19 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.95% จากการรักษาโรคยากซับซ้อนด้วยการผ่าตัดผ่านสถาบันการแพทย์เและศูนย์แพทย์เฉพาะทางด้านต่างๆ การเปิดให้บริการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน รวมถึงการตรวจสุขภาพผ่านโรงพยาบาลเคลื่อนที่ (Sikarin Connect) มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการเดินหน้าร่วมมือสำนักงานประกันสังคมตรวจเชื้อมะเร็งปากมดลูก พร้อมเปลี่ยนวิสัยทัศน์รองรับการขับเคลื่อนองค์กรตามแนวทาง ESG เริ่มโครงการ Sustainability in service มุ่งสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน

นายสุริยันต์ โคจรโรจน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่ด้านปฏิบัติการ บริษัท
ศิครินทร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SKR ผู้ดำเนินงานธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนขนาดใหญ่ เปิดเผยผลประกอบการประจำไตรมาส 3 ปี 2567 ว่า บริษัทมีรายได้จากการดำเนินงานรวม 1,675.19 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 123.39 ล้านบาท หรือ 7.95% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่ทำไว้ที่ 1,551.80 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 243.98 ล้านบาท ลดลง 8.71 ล้านบาท หรือ 3.45% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ที่ทำไว้ที่ 252.69 ล้านบาท

โดยการเติบโตของรายได้มาจากการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของการใช้บริการรักษาโรคยากด้วยการผ่าตัดผ่านสถาบันการแพทย์และศูนย์การแพทย์เฉพาะทางด้านต่าง ๆ การให้บริการตรวจสุขภาพในรูปแบบโรงพยาบาลเคลื่อนที่ (Sikarin Connect) ตามนโยบาย Healthy Thailand ของสำนักงานประกันสังคม การเปิดสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินที่ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงกระบวนการวินิจฉัยผ่านศูนย์บริการตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการทางการแพทย์และศูนย์รังสีวินิจฉัยได้อย่างทันท่วงที อีกทั้งยังสามารถรักษาโรคยากที่มีความซับซ้อนด้วยการผ่าตัดทันที มีแพทย์เฉพาะทางให้บริการตรวจวินิจฉัยโรค 24 ชั่วโมง โดยสามารถรักษาโรคยากซับซ้อนด้วยการผ่าตัดทันทีโดยไม่ต้องส่งต่อ และล่าสุดการร่วมมือกับสำนักงานประกันสังคมดำเนินการตรวจสุขภาพผู้ประกันตนเชิงรุกในสถานประกอบการเพื่อป้องกันและรักษามะเร็งปากมดลูก ด้วยเทคนิคการตรวจหาเชื้อ HVP ในระดับชีวโมเลกุล 

ทั้งนี้ สาเหตุของกำไรสุทธิที่ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เกิดจากการเพิ่มขึ้นของต้นทุนในการรักษาพยาบาลและต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านพนักงานเพื่อเตรียมรับรองการขยายตัวของธุรกิจในปีหน้า โดยบริษัทยังได้มีการปรับแนวทางการทำงานขององค์กรเพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนตามแนวทาง ESG โดยมุ่งขับเคลื่อนองค์กรด้วยวิสัยทัศน์ใหม่ คือ “ปกป้องสังคมอย่างจริงใจ ด้วยนวัตกรรม เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของสังคม มุ่งสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน” หรือ “A Sincere guardian dedicated to fostering innovation for well-being of society with the ESG spirit” และได้เริ่มดำเนินโครงการ Sustainability in service ที่ให้ความสำคัญการมีส่วนร่วมของพนักงานในองค์กรในทุกระดับในการดูแลสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นการลดการใช้พลังงาน การจัดการน้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุด การบริหารจัดการขยะและของเสียเพื่อลดมลพิษ รวมถึงการคัดเลือกวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใช้ภายในโรงพยาบาลที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

“ปีนี้ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากสภาวะเศรษฐกิจถดถอยและการปรับอัตราจ่ายการรักษาโรคยากที่ซับซ้อนในกลุ่ม DRGs ของสำนักงานประกันสังคม ส่งผลกระทบต่ออัตรากำไรของบริษัท แต่สิ่งที่เราปรับกลยุทธ์ให้สามารถโตต่อเนื่องได้ คือ เน้นการเติบโตของรายได้ในลูกค้ากลุ่มทั่วไป ที่เกิดจากการจ่ายค่ารักษาเพิ่มเติมร่วมกับการใช้สิทธิสวัสดิการภาครัฐ แสดงให้เห็นถึง ลูกค้ามีความเชื่อมั่นต่อแบรนด์ของเครือโรงพยาบาลศิครินทร์ ดังนั้น การเติบโตและการขยายตัวต่อจากนี้จะเน้นในเรื่องการยกระดับสถาบันทางการแพทย์ด้านต่างๆ ให้เป็น Center of Excellence ในอนาคต” นายสุริยันต์ กล่าว

LATEST NEWS

SCB WEALTH ยกทัพทีม Advisory ครอบคลุมทุกมิติด้านการลงทุน

นายศรชัย สุเนต์ตา (กลาง) ,CFA รองผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน Wealth & Investment Product ธนาคารไทยพาณิชย์ นำทัพทีมผู้บริหาร SCB WEALTH จัดงานแถลงข่าว SCB WEALTH Holistic Experts ในหัวข้อ Tomorrow’s Wealth: Key Investment Trends Defining 2025 โดยมีนางสาวรัฐยา ทองรัตน์ (ที่ 3 ขวา) ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน High Net Worth & Affluent Segment นางสาวศลิษา หาญพาณิช (ที่ 3 ซ้าย) ผู้บริหารสายงาน Wealth and Insurance Capability Development และ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน CASA Product นายสุกิจ อุดมศิริกุล (ที่2ขวา) กรรมการผู้จัดการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด

ฟื้นวิกฤต! ตลาดหลักทรัพย์ฯ เร่งออกแผน 3 ระยะเร่งด่วน เรียกเชื่อมั่นหุ้นไทย

นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เผยว่า ปัจจุบันตลาดหุ้นไทยมีความผันผวนสูงกว่าปกติ ส่งผลให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ต้องเร่งหารือกับกระทรวงการคลัง เพื่อพิจารณามาตรการสร้างความเชื่อมั่น เช่น การเพิ่มเม็ดเงินใหม่ผ่านกองทุน LTF และสนับสนุนความยั่งยืน (ESG)

RELATED