นางสาวสิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบการชำระเงินและคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท. มีเป้าหมายจะยกระดับให้การใช้จ่ายผ่านช่องทางดิจิทัลเป็นทางเลือกหลักในการชำระเงินของประชาชน เพื่อมุ่งสู่การลดใช้เงินสดในระยะยาว ภายใต้แผนกลยุทธ์ระบบการชำระเงินปี 2565-2567
โดยหนึ่งในสิ่งสำคัญที่ต้องดำเนินการ คือ การพิจารณาทบทวนโครงสร้างราคาของบริการชำระเงินและค่าธรรมเนียมการชำระเงินรูปแบบต่างๆ ทั้งเงินสด เช็ค และบริการชำระเงินดิจิทัล ให้เหมาะสม ภายใต้หลักการ ดังนี้
- สนับสนุนให้ลูกค้าสามารถใช้บริการชำระเงินได้เพิ่มขึ้นและทั่วถึง
- สนับสนุนให้การพัฒนาบริการด้านการชำระเงินดิจิทัลสะท้อนต้นทุนที่แท้จริงอย่างเหมาะสม สอดคล้องกับกลไกตลาด รวมทั้งรองรับบริการชำระเงินที่จะมีหลากหลายรูปแบบในอนาคต และที่สำคัญ ต้องตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่ม
ทั้งนี้ ปัจจุบัน ธปท. อยู่ระหว่างพิจารณาวางแนวทางโครงสร้างค่าธรรมเนียมของทั้งระบบการชำระเงินให้สอดคล้องกับหลักการข้างต้นและเป็นสากล โดยจะนำมาใช้ประเมินเพื่อพิจารณาปรับปรุงและหารือกับผู้เกี่ยวข้อง ก่อนนำมาเป็นแนวทางให้สถาบันการเงินนำไปปรับใช้ต่อไป
หลังจาก เมื่อวันที่ 1 เม.ย.2566 ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB ประกาศจัดเก็บค่าธรรมเนียมการถอนเงินไม่ใช้บัตร (Cardless ATM Withdrawal) ครั้งละ 10 บาท เพื่อสนับสนุนการใช้จ่ายผ่านช่องทางดิจิทัล ลดการใช้เงินสด โดยยกเว้นค่าธรรมเนียมการถอนเงินไม่ใช้บัตร 1 ครั้งต่อเดือน ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.-31 ก.ค.2566
จากนั้นในวันวันที่ 2 เม.ย.2566 ธนาคารยกเว้นการจัดเก็บค่าธรรมเนียมดังกล่าวออกไปก่อน หลังจากธนาคารประกาศแจ้งให้ลูกค้ารับทราบผ่านช่องทางของธนาคาร ปรากฎว่า ได้รับเสียงสะท้อนจากลูกค้าจำนวนมากที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งธนาคารยินดีน้อมรับฟังทุกความคิดเห็น เพื่อนำมาปรับปรุงคุณภาพการให้บริการ โดยตระหนักถึงความเดือดร้อนของลูกค้าที่ยังมีความจำเป็นต้องใช้เงินสดในชีวิตประจำวัน