โจคิม แนเกิล ประธานธนาคารกลางเยอรมนี (Bundesbank) ประกาศว่าความวิตกเรื่องปัญหาพลังงานของเยอรมนีได้ผ่านพ้นไปแล้ว และเศรษฐกิจของเยอรมนี ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรปมี “ความแข็งแกร่งในตัว” ที่จะฟื้นจากภาวะตื่นตระหนก 2 ด้าน ทั้งจากการระบาดของโควิด-19 และสงครามยูเครน
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดในวันอังคารว่า GDP เยอรมันจะหดตัว 0.1% ในปี 2023 ซึ่งเป็นตัวเลขที่ย่ำแย่ที่สุดอันดับ 2 ในกลุ่มประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ รองจากสหราชอาณาจักร ก่อนที่จะกลับมาขยายตัว 1.1% ในปี 2024
ปัญหาที่น่าห่วงมากที่สุดเกี่ยวกับแนวโน้มของเศรษฐกิจเยอรมันและของยุโรปโดยรวมในปีที่ผ่านมาคือปัญหาที่ยุโรปอาจจะต้องเผชิญกับสภาพวิกฤตทางด้านพลังงานในช่วงที่ยุโรปพยายามดิ้นรนลดการพึ่งพาแก๊สที่นำเข้าจากรัสเซีย หลังจากการเปิดฉากรุกรานดินแดนของยูเครนเพื่อทำสงครามเต็มรูปแบบของกองทัพรัสเซีย
เศรษฐกิจของเยอรมนีได้หดตัว 0.4% ในไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว และคาดว่าจะมีสภาพที่หดตัวลงอีกในไตรมาสแรกของปี 2023 ซึ่งในด้านวิชาการถือว่าประเทศนี้ได้ก้าวเข้าสู่ภาวะถดถอย
คุณแนเกิล กล่าวกับ CNBC ในช่วงระหว่างการประชุมของ IMF ว่า เขารู้สึกมั่นใจมากกว่า IMF ว่าเยอรมนีจะไม่ต้องเผชิญกับภาวะถดถอยในปีนี้
เขากล่าวว่า “เศรษฐกิจเยอรมันได้พิสูจน์ตัวเองในช่วงหลายสัปดาห์และหลายเดือนที่ผ่านมาว่า ภาคอุตสาหกรรมของเยอรมันมีศักยภาพสูงในการปรับตัวรับมือกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป ซึ่งทำให้ปัญหาวิกฤตทางด้านพลังงานเกือบจะได้รับการแก้ไขหมดแล้ว และถึงแม้ว่าเราอาจมีสภาพที่น่าห่วงในอดีต แต่ในปัจจุบันปัญหาต่างๆ ได้ผ่านพ้นไปแล้ว และแนวโน้มข้างหน้าดูสดใสขึ้น”
คุณแนเกิลเน้นย้ำว่า ความคืบหน้าของเยอรมนีในการกระจายอุปทานแหล่งแก๊สธรรมชาติเหลว (LNG) โดยไม่ต้องไปพึ่งรัสเซีย และการสร้างคลังเก็บแก๊สเพิ่ม เพื่อให้มีที่เก็บมากขึ้นในช่วงฤดูหนาวที่ไม่ค่อยรุนแรงที่ผ่านมา แปลว่าเศรษฐกิจเยอรมันพร้อมที่จะเผชิญกับฤดูหนาวของปีหน้าได้ดีขึ้นด้วย
ตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายผลิตของเยอรมนีล่าสุดสะท้อนว่า ภาคการผลิตของประเทศ ซึ่งมีสัดส่วนประมาณ 1 ใน 5 ของ GDP ได้ดิ่งลงมากที่สุดในรอบเกือบ 3 ปี ในเดือน มี.ค. โดยได้ตกลงไปถึงระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน พ.ค.2020
ที่มา: https://www.cnbc.com/2023/04/13/bundesbanks-nagel-energy-crisis-is-solved-german-economy-is-safe.html?fbclid=IwAR26Om0M9Hb4pl64qW2JXQ8mHwj4qYg1O7LCkZqg1I_jWv_x9lkGDx6OvqI