BVG แพลตฟอร์มเคลมประกันรถยนต์ 1H24 โต ไตรมาส 3 เข้าไฮซีซั่นทยอยรับรู้รายได้โครงการใหม่

BVG รายงานผลประกอบการ 1H24 รายได้รวม 252 ล้านบาทกำไรสุทธิ 24 ล้านบาทธุรกิจแพลตฟอร์มเคลมประกันรถยนต์เติบโตโดดเด่นสัดส่วนลูกค้าใช้บริการระบบ AI มีเทรนด์เพิ่มขึ้นต่อเนื่องแย้มไตรมาส 3/67 แนวโน้มสดใสธุรกิจเข้าสู่ช่วง High Season พร้อมทยอยรับรู้รายได้โครงการใหม่ธุรกิจที่คำปรึกษาคณิตศาสตร์ประกันภัยมูลค่าโครงการราว 60 ล้านบาทย้ำกลยุทธ์ต่อจิ๊กซอว์เสริม Ecosystem 

นางนวรัตน์ วงศ์ฐิติรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บลูเวนเจอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BVG หนึ่งในผู้นำในการดำเนินธุรกิจให้บริการแพลตฟอร์มและแอปพลิเคชันสำหรับบริหารจัดการธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับประกันภัยรถยนต์ (ระบบ EMCS) ในประเทศไทย  รายงานผลการดำเนินงานงวดครึ่งแรกของปี 2567 ว่า บริษัทมีรายได้จากการให้บริการรวม 252 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้จากการให้บริการรวม 249 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 24 ล้านบาท ลดลง 23% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่ทำไว้ 31 ล้านบาท 

โดยครึ่งแรกของปี 2567 ที่ผ่านมา ธุรกิจแพลตฟอร์มและแอปพลิเคชันสำหรับการเคลมประกันภัยรถยนต์ (ระบบ EMCS) มีการเติบโตอย่างโดดเด่น กวาดกำไร 31 ล้านบาท หรือนับเป็นการเติบโตสูงถึง 26% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยมีรายได้รวม 121 ล้านบาท เติบโตสูงถึง 20% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งเพิ่มขึ้นจากทั้งส่วนของ Claim settlement, Claim notification รวมถึงการให้บริการระบบ AI ในขณะที่ธุรกิจบริหารจัดการสิทธิประโยชน์ด้านการรักษาพยาบาลและสินไหมทดแทนผ่านระบบแพลตฟอร์มและแอปพลิเคชัน (บริการ TPA) ปรับตัวลดลงจากการบริหารความเสี่ยงด้านเครดิต และบริษัทมีค่าใช้จ่าย One time เกี่ยวกับการสร้างแบรนด์และการศึกษาโอกาสและความเป็นไปได้ในการขยายธุรกิจใหม่เป็นมูลค่า 5 ล้านบาท

“ในช่วงปีที่ผ่านมา บริษัทมองเห็นเทรนด์การใช้งานระบบ AI ในการเคลมประกันรถยนต์มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจให้บริการด้าน AI Solutions ประมาณ 10% ของรายได้จาก EMCS ซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วที่มีสัดส่วนอยู่ที่ 7% จากความมุ่งมั่นของบริษัทในการพัฒนาระบบที่ตอบโจทย์ลูกค้า เราสามารถเพิ่มฐานลูกค้าที่เป็นบริษัทประกันภัยรถยนต์ให้มาใช้งานระบบของเราได้อย่างต่อเนื่อง โดยในปลายปีนี้ เราจะเริ่มเปิดใช้บริการระบบ AI Estimate สำหรับการประเมินค่าซ่อมรถยนต์ตั้งแต่ต้นกระบวนการแจ้งเคลมจนถึงกระบวนการจัดซ่อม ซึ่งบริการนี้จะเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญในการเติมเต็มความแข็งแกร่งของ BlueVenture Group Ecosystem ทำให้สามารถดึงดูดลูกค้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นได้อย่างมีนัยยะสำคัญในอนาคต” นางนวรัตน์กล่าว

นางนวรัตน์กล่าวต่อว่า บริษัทคาดแนวโน้มธุรกิจไตรมาส 3/67 เติบโตเด่นจนถึงครึ่งปีหลัง โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากการก้าวเข้าสู่ช่วง High Season ของธุรกิจ ประกอบกับการปรับกลยุทธ์เพิ่มฐานลูกค้า ด้วยการเน้นเจาะตลาดกลุ่มประเทศเพื่อนอย่าง CLMV ได้แก่ กัมพูชา, สปป.ลาว, มาเลเซีย และเวียดนาม นอกจากนี้ บริษัทยังมีโครงการใหม่จากธุรกิจให้คำปรึกษาด้านคณิตศาสตร์ประกันภัย มูลค่าโครงการราว 60 ล้านบาท ซึ่งจะเริ่มทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ช่วงปลายไตรมาส 3/67 เป็นต้นไป

นอกจากนี้ คณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติการจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสด สำหรับผลดำเนินงานงวดครึ่งแรกของปี 2567 ตามงบการเงินเฉพาะกิจการ เป็นจำนวนเงิน 15.3 ล้านบาท ในอัตราหุ้นละ 0.034 บาท หรือคิดเป็นร้อยละ 50 ของกำไรสุทธิหลักหักภาษี ซึ่งเป็นไปตามนโยบายการจ่ายปันผลของบริษัท โดยบริษัทจะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 21 สิงหาคม 2567 วันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 22 สิงหาคม 2567 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 6 กันยายน 2567 

LATEST NEWS

“Smarthome” สมาร์ทโฮมยืนหนึ่งเครื่องใช้ไฟฟ้าสำหรับทุกครอบครัว

เมื่อพูดถึงแแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน เชื่อว่าใครหลายๆ คน คงจะนึกถึงแบรนด์ “Smarthome” เป็น 1 ในคำตอบในใจอย่างแน่นอน ด้วยจุดเด่นของสินค้าที่แข็งแรง ทนทาน ดีไซน์ทันสมัยและราคาที่สามารถเข้าถึงได้ วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับแบรนด์ “Smarthome” กันให้มากยิ่งขึ้น

บิ๊กดีลสะเทือนวงการ! กรุงศรีฟินโนเวตจับมืออีฟราสตรัคเจอร์ เปิดฉากลงทุนมหาศาลปั้นกองทุนใหม่หนุนสตาร์ทอัพรายเล็กก้าวกระโดด พร้อมเปิด Accelerator ติดอาวุธเร่งสปีดสร้างการเติบโต

กรุงศรี ฟินโนเวต ร่วมกับ อีฟราสตรัคเจอร์ (Efra Structure) ของ ป้อม ภาวุธ ผู้บุกเบิกและคร่ำหวอดในวงการอีคอมเมิร์ซไทย เตรียมปั้นกองทุนยักษ์ “ฟินโน อีฟรา ไพรเวท อิควิตตี้ ทรัสต์” (Finno Efra Private Equity Trust) มุ่งลงทุนในสตาร์ทอัพไทยและอาเซียน งบประมาณมหาศาลกว่า 1,300 ล้านบาท (หรือกว่า 35 ล้านเหรียญสหรัฐ) ภายในระยะเวลา 4 ปี เผยเริ่มพูดคุยกับสตาร์ทอัพที่น่าสนใจแล้วราว 5-6 บริษัท พ่วงด้วยการเปิด Accelerator Program อย่างเป็นทางการ เพื่อปั้นสตาร์ทอัพระดับ Seed ถึง Pre-series A ให้เติบโตสู่ระดับ Series A ได้อย่างแข็งแกร่ง

SCB CIO มองตลาดหุ้นทั่วโลกผันผวน เมื่อเข้าสู่โค้งสุดท้ายเลือกตั้งสหรัฐฯ พอร์ตหลักแนะหุ้นกลุ่มเทคฯ-สุขภาพ- สาธารณูปโภค-ทองคำ ส่วนพอร์ตเสริมสะสมเวียดนาม

SCB CIO มองตลาดหุ้นโลกจะมีความผันผวนเพิ่มขึ้นเมื่อเข้าสู่โค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากสถิติชี้ว่า ดัชนี VIX  จะเร่งตัวขึ้นเมื่อเข้าสู่ช่วง 4 เดือนสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง ขณะที่สถิติในอดีตบ่งชี้ดัชนี S&P500 มีแนวโน้มชะลอตัวในช่วงเดือนส.ค.- ก.ย. แนะกลยุทธ์ลงทุนในตลาดหุ้นเลือกหุ้นคุณภาพดีเติบโตสูงงบแข็งแกร่งยอดขายกำไรเติบโตยั่งยืนเช่นกลุ่มเทคโนโลยีพร้อมผสมผสานกับหุ้นกลุ่มที่มีความทนทานต่อภาวะตลาดผันผวนเช่นกลุ่มสาธารณูปโภค  สุขภาพและสินค้าจำเป็น พร้อมระวังลงทุนในหุ้นกลุ่มขนาดเล็กจากกำไรของกิจการของหุ้นขนาดเล็กค่อนข้างผันผวนและอิงกับเศรษฐกิจสหรัฐฯเป็นหลักซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากการที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังเข้าสู่ช่วงของการชะลอตัวลง สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ปานกลาง-สูง แนะลงทุนหุ้นเวียดนามจากดัชนีฯที่ได้แรงหนุนจากเศรษฐกิจที่เติบโตต่อเนื่อง

RELATED