ผู้ถือหุ้น BVG ไฟเขียวจ่ายปันผลปี 66 เพิ่มอัตรา 0.049 บาท/หุ้น รวมทั้งปีจ่าย 0.076 บาท/หุ้นกำหนดจ่าย 15 พ.ค.นี้

ผู้ถือหุ้น BVG ไฟเขียวจ่ายเงินปันผลงวดปี 2566 เพิ่มอัตรา 0.049 บาท/หุ้น รวมทั้งปีจ่าย 0.076 บาทต่อหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 65% ของกำไรสุทธิขึ้นเครื่องหมาย XD 11 มีนาคม 2567 Record Date 12 มีนาคม 2567 กำหนดจ่ายเงินปันผล 15 พฤษภาคม 2567 ผู้บริหารแย้มเป้ารายได้ปี 67 โตราว 10% พร้อมรักษาอัตรากำไร Double Digit หลังเร่งขยายฐานลูกค้าในประเทศพร้อมลุยเปิดตลาดอาเซียน      

นางนวรัตน์ วงศ์ฐิติรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บลูเวนเจอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BVG หนึ่งในผู้นำในการดำเนินธุรกิจให้บริการแพลตฟอร์มและแอปพลิเคชันสำหรับบริหารจัดการธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับประกันรถยนต์ (ระบบ EMCS) ในประเทศไทย เปิดเผยว่า ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลงวดประจำปี 2566 เพิ่มเติมจำนวน 22.05 ล้านบาท คิดเป็นอัตราหุ้นละ 0.049 บาท รวมทั้งปี 2566 จ่ายจำนวนทั้งสิ้น 34.20 ล้านบาท รวมเป็นอัตราหุ้นละ 0.076 บาท ซึ่งมีสัดส่วน 65% ของกำไรสุทธิ ซึ่งสูงกว่าขั้นต่ำของนโยบายจ่ายเงินปันผลที่กำหนดไว้ไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิ โดยกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 11 มีนาคม 2567 กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล (Record Date) วันที่ 12 มีนาคม 2567 และมีกำหนดจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดในวันที่ 15 พฤษภาคม 2567

โดยบริษัทฯ ตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ปี 2567 ไว้ที่ราว 10% พร้อมสามารถรักษาอัตราการทำกำไรไว้ที่ระดับ Double Digit จากการมุ่งเดินหน้าขยายฐานลูกค้าใหม่ทั้งในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้มีการจัดตั้งบริษัท CambodiaRe Blueventure ร่วมกับพันธมิตรที่ประเทศกัมพูชาไปเมื่อปีที่แล้ว และยังมีการขยายกลุ่มธุรกิจสุขภาพ โดยในปีนี้ ได้มีการจัดตั้งบริษัท BlueVenture HCM (BVHCM) ธุรกิจให้บริการ คำแนะนำ และวางแผนการเข้าถึงและการใช้บริการด้านสุขภาพ ที่ใช้จุดแข็งของบริษัทเรื่องการมีเครือข่ายผู้ให้บริการทางการแพทย์ และประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญในบริการด้านสุขภาพนอกจากนี้ บริษัทกำลังศึกษาโอกาสและความเป็นไปได้ในการขยายธุรกิจไปในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ 

LATEST NEWS

SCB WEALTH เปิดผลงานย้อนหลัง 10 ปี ตลาดหุ้นสหรัฐโชว์ผลงานโดดเด่นเฉลี่ย 15%ต่อปี แนะลงทุนยาวหนุนมั่งคั่ง จับจังหวะลงทุนเกาหลีใต้-เวียดนาม-จีน H-Share

SCB WEALTH เผย ผลตอบแทนตลาดหุ้นย้อนหลัง 10 ปี (2555 – 2566) พบตลาดหุ้นสหรัฐสร้างผลตอบแทนดีที่สุดเฉลี่ย 15% ต่อปี มองทิศทางกำไรบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นทั่วโลก มีแนวโน้มเติบโตได้ดี แนะพอร์ตลงทุน ใน Core Portfolio  เน้นลงทุนประมาณ 75 -100 % ควรมีสินทรัพย์ที่หลากหลายและมีสภาพคล่อง  พร้อมมองหาโอกาสลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐ  ยุโรป และญี่ปุ่น ส่วนตลาดเกิดใหม่ ที่น่าสนใจ เศรษฐกิจมีอัตราการเติบโตสูง  ได้แก่ อินเดีย  อินโดนีเซีย และจีน  รวมถึงสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น ทองคำ เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากสงคราม และเงินเฟ้อ ส่วน Opportunistic Portfolio   สัดส่วนลงทุน 0-25 % มุ่งเน้นไปยังตลาดที่มองเห็นโอกาสในระยะสั้น แนะลงทุนในตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เวียดนาม และตลาดหุ้นจีน H-Share

PrimeStreet Capital ผนึก Photon Group ร่วมบริหารการลงทุนกองทุน 150 ล้านดอลลาร์ ลุยพลังงานยั่งยืนเสริมความมั่นคงประเทศ

PrimeStreet Capital ผู้บริหารกองทุน Global Venture Capital สัญชาติไทย ลงนามความร่วมมือ Photon Group บริษัทบริหารจัดการสินทรัพย์รายใหญ่ สัญชาติญี่ปุ่น ลุยลงทุน 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สร้างความยั่งยืนด้านพลังงานในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เน้นกลยุทธ์ “Inside Out – Outside In” ของกองทุน PrimeStreet Capital เสริมความมั่นคงและเพิ่มประสิทธิภาพด้านพลังงาน ยกระดับศักยภาพ Ecosystem ประเทศไทยให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ต่อยอดการเติบโตสู่กองทุน Global Venture Capital ตามเป้า

AH เปิดเผยงบ Q1/67 รายได้กว่า 7,580 ลบ. ชูกลยุทธ์ Diversification โตต่างประเทศ พื้นฐานกิจการแข็งแกร่ง-ปันผลสูง

AH เปิดเผยผลประกอบการ Q1/67 รายได้รวม 7,580 ล้านบาท กำไรสุทธิ 319 ล้านบาท ชูจุดแข็งกลยุทธ์กระจายเสี่ยง ออเดอร์คำสั่งซื้อจีนเพิ่ม ธุรกิจในมาเลเซียโตต่อ ตอกย้ำความแข็งแกร่งผู้นำยานยนต์ พร้อมเติบโตเมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัวรอบใหม่ ผู้บริหารมุ่งหน้าหาออเดอร์และลูกค้าใหม่ต่อเนื่อง ควบคู่กับการบริการจัดการต้นทุนอย่างใกล้ชิด เน้นสร้างผลตอบแทนระยะยาวต่อผู้ถือหุ้น นับเป็นหุ้นพื้นฐานกิจการดี-ปันผลสูงถึง 8%

RELATED