BVG เผยงบ 9M/67 แพลตฟอร์มเคลมประกันรถยนต์-บริษัทลูกโตเด่น เดินหน้าศึกษาโอกาสธุรกิจโครงการใหม่สู่เป้าหมายการเติบโตปีหน้า

BVG รายงานผลประกอบการงวด 9 เดือนแรกของปี 2567 กวาดรายได้รวม 385.9 ล้านบาท กำไรสุทธิ 38.5 ล้านบาท ผลงานไตรมาส 3/67 ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อน แพลตฟอร์มเคลมประกันรถยนต์ (EMCS) โตเด่น 20% บริษัทลูก BVA-BVTECH-BVH เติบโต 19% เริ่มทยอยรับรู้รายได้โครงการธุรกิจที่คำปรึกษาคณิตศาสตร์ประกันภัยปลายไตรมาส คาดแนวแนวโน้ม Q4/67 มีโมเมนตัมเติบโตต่อ จากการรับรู้รายได้โครงการใหม่เต็มไตรมาส ต่อเนื่องยาวจนถึงปีหน้าพร้อมต่อยอดศึกษาความเป็นไปได้ในขยายขอบเขตธุรกิจในโครงการใหม่ๆ ย้ำกลยุทธ์สร้างการเติบโตในประเทศและเจาะตลาดกัมพูชาประกอบกับการบริหารค่าใช้จ่ายและต้นทุนด้านบุคลากรอย่างใกล้ชิดเพื่อความเหมาะสมและประสิทธิภาพสูงสุด 

นางนวรัตน์ วงศ์ฐิติรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บลูเวนเจอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BVG หนึ่งในผู้นำในการดำเนินธุรกิจให้บริการแพลตฟอร์มและแอปพลิเคชันสำหรับบริหารจัดการธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับประกันภัยรถยนต์ (ระบบ EMCS) ในประเทศไทย  เปิดเผยผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปี 2567 ว่า มีกำไรสุทธิ 38.5 ล้านบาท และมีรายได้จากการให้บริการรวม 385.9 ล้านบาท แพลตฟอร์มเคลมประกันรถยนต์ (EMCS) ธุรกิจให้คำปรึกษาด้านคณิตศาสตร์ประกันภัย (BVA) ธุรกิจให้บริการนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีและสารสนเทศ (BVTECH) และธุรกิจให้บริการ คำแนะนำ และวางแผนเข้าถึงการใช้บริการด้านสุขภาพ (BVH) เติบโตเด่น

ทั้งนี้ แม้ว่ารายได้จากธุรกิจให้บริหารจัดการสิทธิประโยชน์ด้านการรักษาพยาบาลและสินไหมทดแทนผ่านระบบแพลตฟอร์มและแอปพลิเคชัน (TPA) จะมีการปรับตัวลดลงจากการคัดกรองลูกค้าเพื่อบริหารความเสี่ยงด้านเครดิต แต่บริษัทได้มีการปรับกลยุทธ์มุ่งพัฒนาการให้บริการระบบ AI ในส่วนของ Claim settlement และ Claim notification ที่ตอบโจทย์การทำงานของลูกค้า ส่งผลให้มีฐานลูกค้าในระบบและมีการใช้บริการเพิ่มขึ้น และสามารถสร้างการเติบโตจากการให้บริการด้านระบบ AI ได้เพิ่มขึ้น 41% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ทั้งนี้ ผลงานในไตรมาส 3/67 รายได้จากการให้บริการรวม 133.6 ล้านบาท ปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 2/67 ที่ทำไว้ 122.9 ล้านบาท หรือเติบโต 9% โดยมีการเติบโตในทุกกลุ่มธุรกิจ ธุรกิจแพลตฟอร์มและแอปพลิเคชันสำหรับการเคลมประกันภัยรถยนต์ (ระบบ EMCS) เพิ่มขึ้น 6% ธุรกิจให้บริหารจัดการสิทธิประโยชน์ด้านการรักษาพยาบาลและสินไหมทดแทนผ่านระบบแพลตฟอร์มและแอปพลิเคชัน (ระบบ TPA) เพิ่มขึ้น 10% รวมถึงบริษัทลูก 3 แห่ง ได้แก่  ธุรกิจให้คำปรึกษาด้านคณิตศาสตร์ประกันภัย (BVA) ธุรกิจให้บริการนวัติกรรมด้านเทคโนโลยีและสารสนเทศ (BVTECH) และธุรกิจให้บริการ คำแนะนำ และวางแผรเข้าถึงการใช้บริการด้านสุขภาพ (BVH) เติบโตรวม 17% โดยเริ่มมีการทยอยรับรู้รายได้โครงการธุรกิจที่คำปรึกษาคณิตศาสตร์ประกันภัยแล้วในช่วงปลายไตรมาส และจะมีการรับรู้รายได้แบบเต็มไตรมาสในช่วงที่เหลือของปี นอกจากนี้ บริษัทมีการบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้สามารถทำกำไรสุทธิ 14.5 ล้านบาท ซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.7 ล้านบาท หรือนับเป็น 34% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/67

“สำหรับไตรมาส 4/67 เรามองเห็นโมเมนตัมของธุรกิจว่ามีแนวโน้มเติบต่อเนื่องจากการพัฒนาคุณภาพของระบบการให้บริการ การเพิ่มฐานลูกค้าและการใช้บริการของลูกค้าภายในประเทศ การเจาะตลาดสร้างเครือข่ายกับพันธมิตรในกลุ่มโรงพยาบาลในประเทศกัมพูชาภายใต้บริษัท CambodiaRe BlueVenture รวมถึงการรับรู้รายได้โครงการใหม่จากธุรกิจให้คำปรึกษาด้านคณิตศาสตร์ประกันภัยต่อเนื่องจากไตรมาสก่อน นอกจากนี้ ทางทีม BVG ยังคงเดินหน้าศึกษาความเป็นไปได้ในการขยายโครงการใหม่ เพื่อต่อยอดการให้บริการไปยังกลุ่มธุรกิจใหม่ๆ เพื่อสร้างการเติบโตของบริษัทในปีถัดไป” นางนวรัตน์กล่าว

LATEST NEWS

SCB WEALTH ยกทัพทีม Advisory ครอบคลุมทุกมิติด้านการลงทุน

นายศรชัย สุเนต์ตา (กลาง) ,CFA รองผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน Wealth & Investment Product ธนาคารไทยพาณิชย์ นำทัพทีมผู้บริหาร SCB WEALTH จัดงานแถลงข่าว SCB WEALTH Holistic Experts ในหัวข้อ Tomorrow’s Wealth: Key Investment Trends Defining 2025 โดยมีนางสาวรัฐยา ทองรัตน์ (ที่ 3 ขวา) ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน High Net Worth & Affluent Segment นางสาวศลิษา หาญพาณิช (ที่ 3 ซ้าย) ผู้บริหารสายงาน Wealth and Insurance Capability Development และ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน CASA Product นายสุกิจ อุดมศิริกุล (ที่2ขวา) กรรมการผู้จัดการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด

ฟื้นวิกฤต! ตลาดหลักทรัพย์ฯ เร่งออกแผน 3 ระยะเร่งด่วน เรียกเชื่อมั่นหุ้นไทย

นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เผยว่า ปัจจุบันตลาดหุ้นไทยมีความผันผวนสูงกว่าปกติ ส่งผลให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ต้องเร่งหารือกับกระทรวงการคลัง เพื่อพิจารณามาตรการสร้างความเชื่อมั่น เช่น การเพิ่มเม็ดเงินใหม่ผ่านกองทุน LTF และสนับสนุนความยั่งยืน (ESG)

RELATED