เปิดเหตุผลทำไมดอลลาร์ ยังเป็นสกุลเงินหลักของโลก

จำนวนประเทศต่างๆ ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่บราซิลไปจนถึงประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กำลังเรียกร้องให้การค้าระหว่างประเทศหันไปใช้สกุลอื่นๆนอกเหนือจากดอลลาร์

ดอลลาร์สหรัฐได้ครองตำแหน่งสกุลเงินการค้าหลักของโลกมานานหลายทศวรรษ เนื่องจากไม่เพียงแต่ว่าสหรัฐมีเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก แต่เพราะน้ำมัน ซึ่งเป็นสินค้าสำคัญที่ทุกประเทศไม่ว่าเล็กหรือใหญ่จำเป็นต้องใช้ มีราคาที่ซื้อขายกันในสกุลเงินของสหรัฐ

นอกจากนั้น การซื้อขายสินค้าโภณภัณฑ์อื่นๆ ส่วนใหญ่ก็ทำกันในรูปดอลลาร์

แต่เมื่อธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เริ่มปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างขนานใหญ่และต่อเนื่องเพื่อสกัดเงินเฟ้อในปีที่ผ่านมา แบงก์ชาติของหลายประเทศทั่วโลกต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยตามเพื่อพยายามสกัดการไหลออกของเงินทุนกลับไปยังสหรัฐและชะลอการอ่อนค่าลงอย่างรวดเร็วของสกุลเงินของตน

เซดริค ชาฮับ ของบริษัทวิจัย Fitch Solutions กล่าวว่า “ถ้าประเทศต่างๆ สามารถกระจายสกุลเงินสำรองระหว่างประเทศในพอร์ตออกไปเป็นหลายๆ สกุล มันอาจจะลดแรงกดดันต่อเงินสำรองในพอร์ตนี้ได้”

ข้อเท็จจริงที่ควรจะย้ำคือ ดอลลาร์สหรัฐยังคงเป็นสกุลหลักที่ครอบงำพอร์ตเงินสำรองของประเทศต่างๆ ส่วนใหญ่ ถึงแม้สัดส่วนของดอลลาร์ในเงินสำรองเหล่านี้จะได้ลดลงจากระดับกว่า 70% ในปี 1999 ทั้งนี้ตามข้อมูลของ IMF

ในไตรมาส 4 ของปี 2022 ตัวเลขนี้ได้ลดลงมาเหลือ 58.36% ในขณะที่เงินยูโรอยู่ในอันดับ 2 ที่ถูกทิ้งห่างมาก คือมีสัดส่วนเพียงประมาณ 20.5% และสกุลเงินหยวนของจีน มีสัดส่วนเพียง 2.7% เท่านั้น

จีนเป็นประเทศที่ได้เคลื่อนไหวมากที่สุดในเรื่องนี้ เนื่องจากบทบาทของตนในฐานะการเป็นผู้นำทางการค้าของโลก รวมทั้งเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 2 ของโลกด้วย

ข้อมูลการค้าปี 2022 ของ IMF ชี้ว่าจีนเป็นประเทศคู่ค้าที่ใหญ่ที่สุด สำหรับ 61 ประเทศทั่วโลก ในขณะที่สหรัฐมีฐานะเดียวกันกับเพียง 30 ประเทศเท่านั้น

คุณชีฮับ กล่าวกับ CNBC ว่า “ในขณะที่พลังทางเศรษฐกิจของจีนยังจะมีมากขึ้นต่อเนื่อง มันคงจะเพิ่มบทบาทอิทธิพลในสถาบันการเงินและการค้าต่างๆ ของโลกด้วย”

จีน ซึ่งเป็นประเทศที่ถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐมากเป็นอันดับ 1 หรือ 2 มาโดยตลอด ได้ค่อยๆ ลดปริมาณการถือครองตราสารหนี้เหล่านี้ของสหรัฐลงอย่างต่อเนื่อง

เมื่อเดือน ก.พ. ปีนี้ จีนถือพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเป็นมูลค่าเกือบ 849,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุดในรอบ 12 ปีที่ผ่านมา

ที่มา: https://www.cnbc.com/…/economic-and-political-factors…

LATEST NEWS

NER พร้อมรับศักราชใหม่ปี 2568 เติบโตอย่างยั่งยืน

นายชูวิทย์ จึงธนสมบูรณ์ (ที่ 5 จากซ้าย) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ “NER”  ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายยางแผ่นรมควัน ยางแท่ง และยางผสม เพื่อจำหน่ายไปยังผู้ผลิตในอุตสาหกรรมยานยนต์ กลุ่มผู้ค้าคนกลาง ทั้งในและต่างประเทศ

ORI โชว์ Backlog แกร่ง 47,329 ล้านบาท รอรับรู้รายได้ต่อเนื่อง 5 ปี พร้อมเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่ 10 – 11, 13 กุมภาพันธ์ 2568 นี้ให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป ชูอัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.50 -5.15% ต่อปี

บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI พร้อมเสนอขายหุ้นกู้ให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไปและผู้ลงทุนสถาบันจำนวน 3 รุ่นอัตราดอกเบี้ย 4.50 – 5.15% จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือนเสนอขายระหว่างวันที่ 10 – 11 และวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 ผ่าน 9 สถาบันการเงินได้แก่ธ.ซีไอเอ็มบีไทยบล. เอเซียพลัสบล. ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) บล.บลูเบลล์บล.โกลเบล็ก บล.ยูโอบีเคย์เฮียน บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) บล.พาย และบล.เมอร์ชั่นพาร์ทเนอร์ พร้อมโชว์ Backlog ในมือ 47,329 ล้านบาท รอรับรู้สร้างรายได้ต่อเนื่อง 5 ปี เตรียมโอนกรรมสิทธิ์โครงการคอนโดก่อสร้างแล้วเสร็จใหม่ปี 2568 เพิ่มอีก 13 โครงการมูลค่าโครงการรวม 17,180 ล้านบาท มีแบ็คล็อกเฉลี่ยแล้วกว่า 70%

RELATED