“เจเรมี่ แกรนธัม” เตือน! ภาคการเงิน กำลังจะแตกฟองสบู่ลูกใหญ่มหึมา ฉุดตลาดหุ้นสหรัฐมีโอกาสดิ่งลงอีก 50%

เจเรมี่ แกรนธัม เคยสร้างชื่อให้กับตัวเองโดยคาดการณ์ได้ถูกต้องล่วงหน้าเรื่องการแตกของฟองสบู่ “ดอท-คอม” ในปี 2000 และวิกฤตการเงินครั้งใหญ่ในปี 2008 และตอนนี้นักลงทุนชื่อดังคนนี้เตือนว่าฟองสบู่ลูกใหญ่มหึมาในภาคการเงินกำลังจะแตก และความปั่นป่วนที่เห็นในภาคธนาคารเมื่อเดือนที่แล้วเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น

คุณแกรนธัม กล่าวกับ CNN ว่า “จะมีสิ่งอื่นๆ ที่จะแตก และยังไม่มีใครรู้ว่าจะเป็นส่วนไหน ปัญหาแรงกดดันที่มีต่อระบบการเงินไม่ใช่ว่าจะจบลงแค่นี้”

คุณแกรนธัม ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทบริหารการลงทุน GMO ซึ่งมักจะมองแนวโน้มตลาดในเชิงลบ กล่าวว่าอัตราดอกเบี้ยที่ดิ่งลงมาถึงระดับต่ำสุด หลังจากช่วงการระบาดหนักของโควิด-19 ได้กระตุ้นตลาดหุ้นและตลาดการเงินให้ทะยานขึ้นอย่างขนานใหญ่อยู่หลายรอบจนกลายเป็น “ฟองสบู่ลูกใหญ่มากลูกหนึ่งในประวัติศาสตร์” ในปี 2021

ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2022 เมื่อดัชนี S&P 500 กระโดดขึ้นไปถึงระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ตลาดหุ้นสหรัฐได้ปรับตัวลงมาประมาณ 15% เนื่องจากธนาคารกลางของประเทศต่างๆ ได้ปรับต้นทุนการกู้ยืมขึ้นไปมาก แต่คุณแกรนธัม มองเห็นโอกาสข้างหน้าที่ดัชนี S&P 500 จะดิ่งลงหนักและลึกมากกว่านี้อีกมาก

เขากล่าวว่า “การคาดการณ์ที่ดีที่สุดที่เราหวังได้คือการดิ่งลง (ของดัชนี S&P 500) อีกประมาณ 27% จากระดับปัจจุบัน ในขณะที่ภาพที่เลวร้ายที่สุดคือเราอาจเห็นการดิ่งลงของดัชนีนี้อีกกว่า 50% โดยจุดต่ำสุดอาจจะไม่เห็นจนกว่าจะถึงช่วงท้ายๆ ของปีหน้า”

แต่นักวิเคราะห์ของ Bank of America และ Goldman Sachs คาดแต่เพียงว่าดัชนี S&P 500 จะปรับลงอีกเพียงประมาณ 2% จากระดับของวันพุธ ส่วน Morgan Stanley คาดว่าดัชนีตัวนี้น่าจะลดลงอีกเกือบ 5%

ตลาดหุ้นไม่ใช่เป็นที่เดียวที่ราคาได้พุ่งขึ้นไปสูงมากในช่วงที่เงินสะพัดโดยได้แรงจูงใจจากดอกเบี้ยที่ต่ำมากจนนักลงทุนต่างแห่เข้าไปรับความเสี่ยง โดยราคาพันธบัตรรัฐบาล อสังหาริมทรัพย์ และแม้แต่เงินคริปโตต่างๆ ก็พากันทะยานขึ้นไป

แต่คุณแกรนธัม เตือนว่า ความฮึกเหิมจนลืมตัวของนักลงทุนอาจนำไปสู่วันหายนะที่เจ็บปวดมากที่คอยอยู่ข้างหน้า

เขากล่าวว่า การล่มสลายของธนาคาร Silicon Valley Bank คือตัวอย่างหนึ่งที่เกิดจากปัญหาการขาดทุนจากการถือครองพันธบัตรตราสารหนี้ในช่วงที่ดอกเบี้ยกระโดดขึ้นสูงจนทำให้มูลค่าราคาตราสารหนี้เหล่านี้ร่วงลง

เขาคาดว่า เมื่อฟองสบู่ปัจจุบันเริ่มอ่อนตัวยุบลง มันชัดเจนแน่นอนว่าตลาดจะเห็นสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง

ที่มา: https://edition.cnn.com/2023/04/13/investing/housing-stock-market-bubble-jeremy-grantham/index.html?fbclid=IwAR1ygaXjc48eAnWBjbV5t7qmaumjILIsJVH8IrGGp2SDHI1AEwMlu_PWHJg

LATEST NEWS

“Smarthome” สมาร์ทโฮมยืนหนึ่งเครื่องใช้ไฟฟ้าสำหรับทุกครอบครัว

เมื่อพูดถึงแแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน เชื่อว่าใครหลายๆ คน คงจะนึกถึงแบรนด์ “Smarthome” เป็น 1 ในคำตอบในใจอย่างแน่นอน ด้วยจุดเด่นของสินค้าที่แข็งแรง ทนทาน ดีไซน์ทันสมัยและราคาที่สามารถเข้าถึงได้ วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับแบรนด์ “Smarthome” กันให้มากยิ่งขึ้น

บิ๊กดีลสะเทือนวงการ! กรุงศรีฟินโนเวตจับมืออีฟราสตรัคเจอร์ เปิดฉากลงทุนมหาศาลปั้นกองทุนใหม่หนุนสตาร์ทอัพรายเล็กก้าวกระโดด พร้อมเปิด Accelerator ติดอาวุธเร่งสปีดสร้างการเติบโต

กรุงศรี ฟินโนเวต ร่วมกับ อีฟราสตรัคเจอร์ (Efra Structure) ของ ป้อม ภาวุธ ผู้บุกเบิกและคร่ำหวอดในวงการอีคอมเมิร์ซไทย เตรียมปั้นกองทุนยักษ์ “ฟินโน อีฟรา ไพรเวท อิควิตตี้ ทรัสต์” (Finno Efra Private Equity Trust) มุ่งลงทุนในสตาร์ทอัพไทยและอาเซียน งบประมาณมหาศาลกว่า 1,300 ล้านบาท (หรือกว่า 35 ล้านเหรียญสหรัฐ) ภายในระยะเวลา 4 ปี เผยเริ่มพูดคุยกับสตาร์ทอัพที่น่าสนใจแล้วราว 5-6 บริษัท พ่วงด้วยการเปิด Accelerator Program อย่างเป็นทางการ เพื่อปั้นสตาร์ทอัพระดับ Seed ถึง Pre-series A ให้เติบโตสู่ระดับ Series A ได้อย่างแข็งแกร่ง

SCB CIO มองตลาดหุ้นทั่วโลกผันผวน เมื่อเข้าสู่โค้งสุดท้ายเลือกตั้งสหรัฐฯ พอร์ตหลักแนะหุ้นกลุ่มเทคฯ-สุขภาพ- สาธารณูปโภค-ทองคำ ส่วนพอร์ตเสริมสะสมเวียดนาม

SCB CIO มองตลาดหุ้นโลกจะมีความผันผวนเพิ่มขึ้นเมื่อเข้าสู่โค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากสถิติชี้ว่า ดัชนี VIX  จะเร่งตัวขึ้นเมื่อเข้าสู่ช่วง 4 เดือนสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง ขณะที่สถิติในอดีตบ่งชี้ดัชนี S&P500 มีแนวโน้มชะลอตัวในช่วงเดือนส.ค.- ก.ย. แนะกลยุทธ์ลงทุนในตลาดหุ้นเลือกหุ้นคุณภาพดีเติบโตสูงงบแข็งแกร่งยอดขายกำไรเติบโตยั่งยืนเช่นกลุ่มเทคโนโลยีพร้อมผสมผสานกับหุ้นกลุ่มที่มีความทนทานต่อภาวะตลาดผันผวนเช่นกลุ่มสาธารณูปโภค  สุขภาพและสินค้าจำเป็น พร้อมระวังลงทุนในหุ้นกลุ่มขนาดเล็กจากกำไรของกิจการของหุ้นขนาดเล็กค่อนข้างผันผวนและอิงกับเศรษฐกิจสหรัฐฯเป็นหลักซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากการที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังเข้าสู่ช่วงของการชะลอตัวลง สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ปานกลาง-สูง แนะลงทุนหุ้นเวียดนามจากดัชนีฯที่ได้แรงหนุนจากเศรษฐกิจที่เติบโตต่อเนื่อง

RELATED