บริษัท Huawei Technologies ของจีน กล่าวในวันศุกร์ว่า ตนได้ “หลุดพ้นจากสภาพวิกฤต” โดยสามารถทำตัวเลขรายได้เพิ่มขึ้นเล็กน้อยในปี 2022 ถึงแม้กำไรสุทธิของบริษัทจะดิ่งลงเกือบ 69% จากปีก่อนหน้า
บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของจีน กล่าวว่า ตนบรรลุความคืบหน้าในการผลิตชิ้นส่วนอุปกรณ์ เพื่อทดแทนส่วนที่ถูกสหรัฐคว่ำบาตร หลังจากที่บริษัทได้ทุ่มงบประมาณนับพันๆ ล้านดอลลาร์ ในด้านการวิจัย
Huawei กล่าวว่า รายได้ของบริษัทปรับขึ้น 0.9% ในปีที่แล้ว ซึ่งสะท้อนว่าธุรกิจของตนเริ่มจะมีเสถียรภาพบ้าง หลังจากถูกสหรัฐใช้มาตรการควบคุมการส่งออกอยู่หลายรอบตั้งแต่ปี 2019 เป็นต้นมา ซึ่งกระทบต่ออุตสาหกรรมผลิตสมาร์ทโฟนที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นธุรกิจที่ยิ่งใหญ่ของบริษัท
ธุรกิจหลักด้านอุปกรณ์ระบบเครือข่ายโทรคมนาคม 5G ของ Huawei ทำกำไรสุทธิ 35,600 ล้านหยวน (5,180 ล้านดอลลาร์) ในปี 2022 ลดลงถึง 2 ใน 3 จากปี 2021 ซึ่งเป็นปีที่ Huawei ขายทิ้งบริษัทลูก Honor ที่อยู่ในอุตสาหกรรมผลิตสมาร์ทโฟนสำหรับตลาดลูกค้าระดับกลาง
ผู้บริหารระดับสูงของ Huawei เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวเรื่องสภาพที่บริษัทได้ถูกบีบคั้น “ถึงทางตันอันตราย” จนต้อง “ดิ้นรนหาทางให้อยู่รอด” หลังจากรัฐบาลสหรัฐปิดกั้นไม่ให้บริษัทซื้อชิ้นส่วนชิปและเครื่องมืออุปกรณ์การออกแบบตัวชิปที่เคยสั่งซื้อจากบริษัทสหรัฐ
เม็ง วานโจว CFO ของ Huawei ซึ่งเป็นลูกสาวของผู้ก่อตั้งบริษัท กล่าวว่า “ปี 2022 คือปีที่เราพาตัวเองให้หลุดพ้นจากสภาพวิกฤตได้จนสามารถกลับมาทำธุรกิจได้ตามปกติ”
รัฐบาลสหรัฐได้กล่าวหาว่าธุรกิจของ Huawei ถือเป็นภัยต่อความมั่นคงของสหรัฐ แต่บริษัทยักษ์ใหญ่ของจีนปฏิเสธข้อกล่าวหานี้
ปัญหาความขัดแย้งระหว่างสหรัฐกับจีนเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้คุณเม็งต้องถูกกักตัวในแคนาดาอยู่นาน 3 ปี ในข้อหาว่าเธอได้พยายามปกปิดการที่บริษัทในเครือของ Huawei ได้ขายอุปกรณ์บางชนิดให้กับอิหร่าน ซึ่งถือเป็นการละเมิดมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐ