รมว. คลังสหรัฐ เจเน็ท เยลเลน กล่าวให้สัมภาษณ์กับ CNN ว่า ความปั่นป่วนในระบบธนาคารสหรัฐเมื่อเดือนที่แล้วไม่ได้ทำให้ประเทศตกจากลู่วิ่งที่จะนำเศรษฐกิจไปสู่การชะลอตัวอย่างนิ่มนวล (Soft Landing)
คุณเยลเลน กล่าวว่า “ดิฉันคิดว่ายังมีหนทางที่จะดึงเงินเฟ้อให้ลดต่ำลงมาโดยยังสามารถรักษาตลาดแรงงานให้คงอยู่ในสภาพที่ถือว่าแข็งแกร่ง และสัญญาณเท่าที่เห็นชี้ว่าเรายังกำลังเดินอยู่บนเส้นทางนั้น”
เธอกล่าวว่า “ถ้าถามว่ามีความเสี่ยงไหม? คำตอบคือมีแน่นอน ดิฉันไม่อยากประเมินความเสี่ยงที่ต่ำเกินไป แต่คิดว่ามันมีวิธีที่จะเป็นไปได้”
คุณเยลเลน กล่าวว่า ปัจจัยที่ผลักดันเงินเฟ้อให้สูงขึ้นมีหลายอย่าง นอกเหนือจากภาวะความร้อนแรงของตลาดแรงงาน เช่น สงครามยูเครน ซึ่งได้ทำให้ราคาอาหารและพลังงานสูงขึ้น และโรคโควิด-19 ที่สร้างปัญหาให้กับระบบห่วงโซ่อุปทานที่ทำให้วัตถุดิบบางอย่างขาดแคลนจนไปกระทบต่อบางภาคส่วนที่สำคัญของเศรษฐกิจ เช่น อุตสาหรรมรถยนต์
เธอกล่าวว่า “เรากำลังเห็นคอขวดในบางระบบห่วงโซ่อุปทานที่ส่งผลต่อเงินเฟ้อที่มีเพิ่มขึ้น แต่เรื่องนี้ก็เริ่มได้รับการแก้ไขไปบ้างแล้ว”
นอกจากนั้น “เราเห็นอัตราดอกเบี้ยที่เคยต่ำในอดีตได้ทำให้คนใช้ชีวิตที่แตกต่างไปจากในอดีต ซึ่งทำให้ราคาบ้านที่อยู่อาศัยในสหรัฐแพงขึ้นมาก แต่ขณะนี้ราคาบ้านเริ่มที่จะทรงตัวได้แล้ว”
ตัวเลขข้อมูลเศรษฐกิจที่ออกมาในสัปดาห์นี้ชี้ถึงสัญญาณการชะลอตัวของภาวะเงินเฟ้อและการใช้จ่ายของผู้บริโภค
การล่มสลายของธนาคาร Silicon Valley Bank และ Signature Bank เมื่อเดือนที่แล้วได้ก่อให้เกิดสภาพวิกฤตในตลาดการเงินและปัญหาความไม่ชัดเจนเกี่ยวกับคลื่นกระทบที่จะมีต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวม
ภาพความไม่ชัดเจน ซึ่งรวมทั้งความวิตกกังวลว่าจะมีธนาคารอื่นหรือไม่ที่จะมีปัญหา หรือจะมีแอฟเตอร์ช็อกที่จะผลักดันให้เศรษฐกิจสหรัฐเดินเข้าสู่ภาวะถดถอยหรือไม่ และความวิตกเหล่านี้จะทำให้เฟดต้องหยุดการขึ้นดอกเบี้ยต่อไปหรือปล่า