นายกรัฐมนตรีจีน หลี่ เฉียง เรียกร้องให้ประเทศต่างๆในเอเชียยืนอยู่ข้างจีนในช่วงการปราศรัยต่อผู้ฟังจากนานาชาติเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่เขาเข้ารับตำแหน่งเมื่อต้นเดือนนี้
คุณหลี่ กล่าวในช่วงกลางสัปดาห์นี้ว่า จีนได้ทำตัว “ด้วยความรับผิดชอบ” ในฐานะเป็นประเทศใหญ่ที่มีส่วนช่วยส่งเสริมสันติภาพของโลก
คุณหลี่ กล่าวว่า “สันติภาพเป็นเงื่อนไขที่จำเป็นขาดไม่ได้สำหรับการพัฒนาประเทศ”
คำปราศรัยของเขาที่ยาวประมาณ 25 นาที ในงานสัมนา Boao Forum for Asia ไม่ได้แตะปัญหาความขัดแย้งระหว่างจีนกับสหรัฐที่กำลังทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น
งานสัมนาประจำปีที่มณฑลไฮ่หนาน ที่รัฐบาลจีนเป็นเจ้าภาพ ถูกนักวิเคราะห์บางคนมองว่าเป็นงานที่จัดขึ้นมาแข่งกับงาน World Economic Forum ที่มีผู้นำจากทั่วโลกมาสังสรรค์กันทุกปีที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
คุณหลี่ กล่าวว่า ขณะนี้เอเชียและทั้งโลกกำลังอยู่ในช่วง “หัวเลี้ยวหัวต่อ” ของประวัติศาสตร์ ในขณะที่จีนเป็นศูนย์กลางของเสถียรภาพ
เขาเท้าความถึงการประชุมใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนในช่วงฤดูใบไม้ร่วงปีที่แล้ว เมื่อจีนประกาศเป้าหมาย “การฟื้นคืนพลังความคึกคักแห่งชาติ” โดยที่จีนมีบทบาทสนับสนุนที่สำคัญในเวทีโลกในด้าน “การขยายเศรษฐกิจที่โตเร็ว” และ “เสถียรภาพทางสังคม”
คุณหลี่ ซึ่งเพิ่งเข้ามารับตำแหน่งในเดือน มี.ค. กล่าวว่า การพัฒนาของจีนในช่วงต่อไปจะ “สร้างแรงขับเคลื่อนที่แข็งแกร่งที่จะหนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจในเอเชีย”
เขากล่าวว่า ภาพแนวโน้มเศรษฐกิจภายในประเทศจีนในเดือน มี.ค. ดูดีขึ้น เมื่อเทียบกับ 2 เดือนก่อนหน้า ทั้งนี้ตัวเลขเศรษฐกิจของเดือน ม.ค. และ ก.พ. ของจีนชี้ถึงสภาพการฟื้นตัวอย่างเชื่องช้า จากปัญหาผลกระทบที่มีมากจากมาตรการคุมเข้มของโรคโควิด-19
เมื่อเดือน ม.ค. รัฐบาลจีนเริ่มผ่อนคลายการเดินทางเข้าออกผ่านพรหมแดน หลังจากที่ได้ปิดกั้นไปนานเกือบ 3 ปี เพื่อสกัดโรคระบาดนี้
คุณหลี่ กล่าวในวันพฤหัสที่แล้วว่า รัฐบาลจีนจะเปิดตลาดภายในประเทศให้กว้างขึ้นและปรับปรุงบรรยากาศของภาคธุรกิจ พร้อมกับย้ำถึงเจตนารมณ์ของรัฐบาลในการป้องกันไม่ให้เกิดปัจจัยเสี่ยงที่จะมากระทบต่อระบบการเงินภายในประเทศ
ในระหว่างงาน Boao Forum for Asia คุณหลี่ได้พบปะหารือกับนางคริสตาลิน่า จอจีว่า กรรมการผู้จัดการใหญ่ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)