บมจ.นอร์ทอีส รับเบอร์ (NER) มั่นใจยอดขายปี 2566 ตามเป้าหมายที่วางไว้ การขยายตลาดอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันบริษัทมีออเดอร์ล่วงหน้าแล้วไปถึงต้นไตรมาส 4/2566 พร้อมเดินหน้าก่อสร้างโรงงานยางแท่งและยางผสมแห่งที่ 3 กำลังการผลิต 172,800 ตัน เพื่อรองรับลูกค้ารายใหม่
นายชูวิทย์ จึงธนสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พร้อมด้วยนายศักดิ์ชัย จงสถาพงษ์พันธ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานบริหารบัญชี-การเงิน และนางสาวเกศนรี จองโชติศิริกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการตลาด/ควบคุมคุณภาพและพัฒนาความยั่งยืน บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NER ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายยางแผ่นรมควัน ยางแท่ง และยางผสม เพื่อจำหน่ายไปยังผู้ผลิตในอุตสาหกรรมยานยนต์ และกลุ่มผู้ค้าคนกลาง ทั้งในและต่างประเทศ ร่วมนำเสนอข้อมูลในงานบริษัทจดทะเบียนพบนักลงทุน Opportunity Day ประจำไตรมาส 1 ปี 2566 เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจยอดขายปี 2566 เติบโตเป็น 500,000 ตันตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยยังมุ่งเน้นการขยายตลาดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปัจจุบันมีการเซ็นสัญญากลุ่มลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นอีกหลายรายทั้งในประเทศจีน สิงคโปร์ อินเดีย และไทย และคาดว่าครึ่งปีหลังจะมีลูกค้าใหม่เพิ่มอีกหลายราย
ด้านไตรมาส 2/2566 คาดว่าจะเติบโตดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2566 โดยได้รับอานิสงส์จากราคายางที่ปรับตัวดีขึ้น และคำสั่งซื้อจากประเทศจีนนับแต่การเปิดประเทศ ซึ่งมีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันบริษัทมีการขายที่เตรียมส่งมอบสินค้าให้กับลูกค้าไปถึงไตรมาสที่ 4/2566 แล้ว
สำหรับการลงทุนก่อสร้างโรงงานยางแท่งและยางผสมแห่งที่3 กำลังการผลิต 172,800 ตัน บริษัทยังคงเดินหน้าขยายกำลังการผลิตสินค้าประเภทยางแท่งและยางแท่งผสม ปัจจุบันอยู่ระหว่างการปรับปรุงที่ดิน ซึ่งคาดว่าโรงงานจะสร้างเสร็จและเริ่มรับรู้รายได้ในปี 2567 ซึ่งภายหลังจากการขยายกำลังการผลิตดังกล่าว บริษัทจะมีกำลังการผลิตสินค้ารวมทั้งสิ้น 688,400 ตันต่อปี
นอกจากนี้ บริษัทยังมุ่งมั่นที่จะลดต้นทุนผลิตในการดำเนินงาน เนื่องจากการขยายกำลังการผลิตทำให้เกิดการประหยัดต่อขนาด (Economic of Scale) ทำให้บริษัทสามารถบริหารจัดการต้นทุนต่างๆ ภายในโรงงานได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงจะมีการนำพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้ภายในโรงงานแห่งที่ 3 เพื่อลดต้นทุนพลังงานเพิ่มเติมด้วย
ด้านนโยบายและกลยุทธ์ด้านความยั่งยืน บริษัทมีนโยบายดำเนินธุรกิจด้วยความคำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสียโดยยึดมั่นในหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีขององค์กร จริยธรรมธุรกิจ และการปฏิบัติตามกฎหมายและข้อกำหนดต่างๆ ด้วยคุณค่าความยั่งยืนที่เราจะส่งมอบโดยมีเป้าหมายในการพัฒนาที่ยั่งยืน ด้วยการ ส่งมอบผลิตภัณฑ์ธรรมชาติผ่านนวัตกรรมการผลิตที่มีคุณค่าควบคู่ไปกับการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อการเติบโตและมอบสินค้าไปยังผู้บริโภคด้วยรอยยิ้มและความสุข
โดยในปี 2566 บริษัทยังคงดำเนินโครงการด้านความยั่งยืนหลายโครงการอย่างต่อเนื่อง อาทิ โครงการห่วงโซ่อุปทานเพื่อความยั่งยืนปี 2 โครงการตลาดสีเขียว โครงการห้องสมุดเพื่อการเรียนรู้ โครงการ NER ร่วมใจลดขยะพลาสติก โครงการตรวจสุขภาพกลุ่มเปราะบาง โครงการส่งสุขความรู้สู่ดวงใจพนักงานผ่านคาราวานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นต้น เพื่อสร้างประโยชน์ให้แก่ชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปพร้อมกับการเติบโตอย่างยั่งยืนของบริษัท