พรรคก้าวไกลพร้อมอีก 7 พรรค จัดแถลงข่าวร่วมกันถึงผลเจรจา จัดตั้งรัฐบาลประชาชนด้วยสมาชิกสภารวม 313 คน ทั้ง 7 พรรคประกอบไปด้วย พรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย พรรคประชาชาติ พรรคไทยสร้างไทย พรรคเสรีรวมไทย พรรคเป็นธรรม พรรคพลังสังคมใหม่และพรรคเพื่อไทยรวมพลัง
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลและว่าที่นายกรัฐมนตรีได้สรุป 3 ข้อหลังเจรจากับ 7 พรรคการเมืองว่า
1. ทุกพรรคเห็นชอบสนับสนุนหัวหน้าพรรคก้าวไกล นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ตามเสียงข้างมากของประชาชน
2. ทุกพรรคจะร่วมจัดทำ ข้อตกลงร่วม MOU ในการจัดตั้งรัฐบาลเพื่อทำงานร่วมกัน และจะแถลงต่อสาธารณะชนในวันที่ 22 พฤษภาคมนี้ เพื่อแก้ไขวิกฤติการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม (Negotiation Team)
3. ทุกพรรคจะจัดตั้งคณะทำงานเพื่อเปลี่ยนผ่านรัฐบาล และเตรียมความพร้อมให้สามารถบริหารราชการแผ่นดินได้อย่างไร้รอยต่อเพื่อประชาชน (Transition Team)
นายพิธา ยืนยันว่าจำนวนจัดตั้งรัฐบาล 313 เสียง ณ วันนี้เพียงพอต่อระบอบประชาธิปไตย โดยได้มีการวางแผนไว้หลายสถานการณ์ เพื่อลดความเสี่ยงต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นกับการโหวตในสภา แต่ยืนยันว่าผ่านแน่ๆ และโดยยึดหลักการมี roadmap มีคณะกรรมการ และมีเป้าหมายที่ชัดเจนในการจัดตั้งรัฐบาลให้ผ่านไปด้วยดี
ส่วนประเด็นคำถามในเรื่องจุดยืนต่อ ม.112 ทุกพรรคจะร่วมกันหาทางออกจะทำเป็นการตกลงกันใน MOU แต่ถ้าเห็นต่างกันเยอะมาก จะมีการแถลงว่ามีกลไกทำเรื่องนั้นได้อย่างไร ในวันที่ 22 นี้ ทางด้านคดีความการถือหุ้น ITV นายพิธาบอกว่าไม่กังวล แต่ก็จะไม่ประมาท และพร้อมรับมือทุกมิติ เตรียมตัวยอมรับการตรวจสอบ
กรณีท่าทีส.ว. กับการโหวตในสภา ที่มีเสียงแตก คิดว่าเป็นเรื่องน่ายินดี ขอบคุณบางท่านทีตัดสินใจ อย่างเป็นประชาธิปไตย เริ่มเห็นประชาชนมีอำนาจอธิปไตยสูงสุด
ทั้งนี้จากการแถลงข่าวร่วมกันในวันนี้ ตัวแทนทั้ง 7 พรรค ยืนยันไปในทางเดียวกัน พร้อมสนับสนุนให้นายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรี