PR9 โชว์กำไร 1H24 298 ลบ. บวก 30% ผู้ป่วยไทย-ต่างชาติโตต่อเนื่องชี้ครึ่งปีหลังสัญญาณดีตีตลาดผู้ป่วยอาหรับ

PR9 เผยประกอบการครึ่งแรกปี 2567 กวาดรายได้รวม 2,178 ล้านบาท กำไรสุทธิ 298 ล้านบาทเติบโต 30% ผู้ป่วยไทย-ต่างชาติเข้ามารักษาเพิ่มขึ้นต่อเนื่องสถาบันโรคไตฯ , สถาบันหัวใจฯ , ศูนย์ศัลยกรรม , ศูนย์กระดูกและข้อมีการใช้บริการเติบโตโดดเด่น ชี้ไตรมาส 3/67 เข้าช่วงพีค High Season มั่นใจโตต่อจากการเปิดเทอมของนักเรียนและโรคที่มากับฤดูฝน ลุยเดินหน้ารุกตลาดอาหรับ หลังเห็นสัญญาณบวกผู้ป่วยอาหรับเข้ามารักษาโรคยากซับซ้อนเพิ่มต่อเนื่อง เน้นย้ำกลยุทธ์พัฒนาศักยภาพทางการแพทย์ด้วยเทคโนโลยีทีล้ำสมัย เตรียมอัพเกรดเครื่องมือการแพทย์ ร่วมมือพันธมิตรตรวจความเสี่ยง วางแผนรักษาโรคมะเร็ง พร้อมเปิดให้บริการศูนย์การแพทย์ใหม่อย่างต่อเนื่อง ได้แก่ ศูนย์แพทย์แผนจีน และศูนย์ส่งเสริมสมรรถภาพเพศชาย รองรับความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น 

นพ.เสถียร ภู่ประเสริฐ รองประธานกรรมการและกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท โรงพยาบาลพระรามเก้า จำกัด (มหาชน) หรือ PR9 เปิดเผยถึงผลประกอบการครึ่งแรกของปี 2567 ว่าบริษัทมีกำไรสุทธิหลัก 298 ล้านบาท เติบโต 30% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำกำไรสุทธิไว้ที่ 230 ล้านบาท และมีรายได้รวม 2,178 ล้านบาท เติบโต 10% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำรายได้รวมไว้ที่ 1,984 ล้านบาท

ทั้งนี้ ในไตรมาส 2/67 บริษัทสามารถสร้างการเติบโตสอดคล้องกับเป้าหมายที่วางไว้ แม้จะเป็นช่วง Low Season มีสาเหตุหลักมาจากการใช้บริการที่เพิ่มขึ้นของผู้ป่วยไทยและผู้ป่วยต่างชาติ โดยเข้ามารักษาเพิ่มขึ้นทั้งในรูปแบบ OPD และ IPD (ผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก) อีกทั้งยังมีการเติบโตอย่างโดดเด่นของการใช้บริการในสถาบันโรคไตฯ , สถาบันหัวใจฯ , ศูนย์ศัลยกรรม , ศูนย์กระดูกและข้อ ซึ่งตรงกับกลยุทธ์ และจุดแข็งของบริษัทที่เป็นผู้เชี่ยวชาญในการรักษาโรคยากซับซ้อน และมีบริการที่รองรับการก้าวสู่สังคมสูงวัย โดยบริษัทสามารถบริหารต้นทุนค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถึงแม้จะมีค่าใช้จ่ายด้านการขายและการบริหารเพิ่มขึ้นเพื่อทำการตลาดเชิงรุกในกลุ่มผู้ป่วยต่างชาติ อาทิ การทำป้ายโฆษณาบิลบอร์ดให้มองเห็นในพื้นที่สาธารณะ และการทำเว็บไซต์ออนไลน์สำหรับชาวต่างชาติ แต่บริษัทก็สามารถทำ อัตรากำไร 13.7% ในครึ่งปีแรก เติบโต 30% จากอัตรากำไร 11.6% ของปีก่อน

นพ.เสถียร กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทมองเห็นแนวโน้มการเติบโตต่อเนื่องจนถึงไตรมาส 3 จากการก้าวเข้าสู่ช่วง High season ทำให้มีจำนวนเคสไข้หวัดที่มาจากฤดูฝนเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับเคสผู้ป่วยกลุ่มเด็กนักเรียนหลังมีการเปิดเทอม นอกจากนี้ เมื่อกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาพบว่า มีผู้ป่วยชาวอาหรับเข้ามาใช้บริการรักษาพยาบาลเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น โดยผู้ป่วยกลุ่มนี้เข้ามารักษาโรคยากซับซ้อน เช่น โรคไตวาย , โรคหลอดเลือดหัวใจ , โรคเบาหวาน และแผลเบาหวานที่เท้า ฯลฯ ซึ่งนับเป็นสัญญาณที่ดีหลังทางบริษัทได้มุ่งเน้นทำการตลาดเชิงรุกผ่านการร่วมมือกับพันธมิตรที่มีศักยภาพหลายแห่ง อีกทั้งยังพบว่ามีผู้ป่วยชาวจีนที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย (Expat) เข้ามาใช้บริการเพิ่มมากขึ้น จากกลยุทธ์การทำแบรนด์ให้มีการรับรู้ว่าโรงพยาบาลพระรามเก้ามีความเชี่ยวชาญในการรักษาโรคยากซับซ้อนในราคาที่คุ้มค่า ภายใต้คุณภาพและการบริการระดับสากล

“สำหรับครึ่งปีหลัง เรายังคงดำเนินการพัฒนาศักยภาพทางการแพทย์ในหลากหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นการอัพเกรดเครื่องมือทางการแพทย์ที่ใช้ในสถาบันหัวใจและหลอดเลือด การรักษาโรคลิ้นหัวใจโดยไม่ต้องผ่าตัด และมีประสิทธิภาพที่แม่นยำขึ้น การร่วมมือกับบริษัท แคริว่า (ประเทศไทย) จำกัด และศูนย์จีโนมิกส์ศิริราช เปิดให้บริการตรวจหาความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็ง ด้วยเทคโนโลยีถอดรหัสพันธุกรรม 53 ยีน ครอบคลุมการตรวจหาความเสี่ยงโรคมะเร็งได้ 12 ชนิด รวมถึงการขอใบอนุญาตในการรักษาแบบฝังเข็ม เพื่อเจาะตลาดผู้ป่วยชาวจีน คาดว่าจะสามารถเริ่มให้บริการได้ประมาณช่วงไตรมาส 4 ปี 67 นี้” นายแพทย์เสถียร กล่าว

LATEST NEWS

NER พร้อมรับศักราชใหม่ปี 2568 เติบโตอย่างยั่งยืน

นายชูวิทย์ จึงธนสมบูรณ์ (ที่ 5 จากซ้าย) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ “NER”  ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายยางแผ่นรมควัน ยางแท่ง และยางผสม เพื่อจำหน่ายไปยังผู้ผลิตในอุตสาหกรรมยานยนต์ กลุ่มผู้ค้าคนกลาง ทั้งในและต่างประเทศ

ORI โชว์ Backlog แกร่ง 47,329 ล้านบาท รอรับรู้รายได้ต่อเนื่อง 5 ปี พร้อมเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่ 10 – 11, 13 กุมภาพันธ์ 2568 นี้ให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป ชูอัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.50 -5.15% ต่อปี

บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI พร้อมเสนอขายหุ้นกู้ให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไปและผู้ลงทุนสถาบันจำนวน 3 รุ่นอัตราดอกเบี้ย 4.50 – 5.15% จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือนเสนอขายระหว่างวันที่ 10 – 11 และวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 ผ่าน 9 สถาบันการเงินได้แก่ธ.ซีไอเอ็มบีไทยบล. เอเซียพลัสบล. ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) บล.บลูเบลล์บล.โกลเบล็ก บล.ยูโอบีเคย์เฮียน บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) บล.พาย และบล.เมอร์ชั่นพาร์ทเนอร์ พร้อมโชว์ Backlog ในมือ 47,329 ล้านบาท รอรับรู้สร้างรายได้ต่อเนื่อง 5 ปี เตรียมโอนกรรมสิทธิ์โครงการคอนโดก่อสร้างแล้วเสร็จใหม่ปี 2568 เพิ่มอีก 13 โครงการมูลค่าโครงการรวม 17,180 ล้านบาท มีแบ็คล็อกเฉลี่ยแล้วกว่า 70%

RELATED