SCB WEALTH โดดเด่นบนเวทีระดับโลก คว้า 3 รางวัลสุดยิ่งใหญ่ 2 ปีซ้อน

นายศรชัย  สุเนต์ตา  (กลาง) , CFA  รองกรรมการผู้จัดการ  ผู้บริหารสายงาน Investment Office and Product กลุ่มธุรกิจ Wealth พร้อมด้วยนางสาวรัฐยาทองรัตน์  (ที่ 3 ขวา) ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่  ผู้บริหารสายงาน Wealth Strategy and Enablement และนางสาวศลิษาหาญพาณิช  (ที่ 3 ซ้าย)  ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่  ผู้บริหารสายงาน Wealth Capability Development ธนาคารไทยพาณิชย์  เป็นผู้แทนธนาคารเข้ารับ 3 รางวัลสุดยิ่งใหญ่บนเวทีระดับโลก ในงาน  “2023  ASIAN PRIVATE  BANKER   13th   Award  for Distinction” เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน  ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านการลงทุน และบริหารความมั่งคั่งที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้าในทุกมิติ 

โดยทั้ง 3  รางวัลที่ได้รับ ประกอบด้วย   1) รางวัล  Best Domestic Private Bank – CIO Office  2 ) รางวัล Best Domestic Private  Bank- Discretionary  Portfolio Management   และ 3 ) รางวัล Best  Domestic  Private Bank – Digital Innovation and Services จัดโดย  Asian Private Banker นิตยสารการเงินการลงทุนชั้นนำในภูมิภาคเอเชีย  เมื่อเร็วๆนี้  ณ  โรงแรม JW Marriott   ฮ่องกง

นายศรชัย เปิดเผยว่า รู้สึกยินดีและภูมิใจเป็นอย่างยิ่งกับ 3  รางวัลที่ได้รับเป็นปีที่ 2  ติดต่อกัน  เป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่น และทุ่มเทของทีมงานในการยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer Centric) เพื่อเฟ้นหาสิ่งที่ดีที่สุดในการสร้างความมั่งคั่งอย่างยั่งยืนให้กับลูกค้า ทั้งในด้านการคัดสรรผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ในทุกภาวะตลาด การพัฒนาโซลูชั่นด้านการเงินและการลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยนำนวัตกรรม  แฟลตฟอร์มเทคโนโลยี  และดาต้า มาใช้วิเคราะห์ข้อมูลการลงทุนของลูกค้า ผ่าน Wealth  Platform เพื่อวางแผนการลงทุนที่สามารถจัดพอร์ตตามความเสี่ยงที่ลูกค้ายอมได้ และสร้างผลตอบแทนให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ลูกค้าคาดหวัง  บนผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่หลากหลายครบวงจรแบบ  Open Architecture  เพื่อให้ลูกค้าได้เลือกผลิตภัณฑ์ลงทุนตรงตามความต้องการอย่างแท้จริง และการได้รับรางวัลในครั้งนี้ เป็นการการันตีคุณภาพการบริหารความมั่งคั่ง ของSCB  WEALTH ที่ตระหนักถึงความสำคัญในการบริหารเงินเพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีอย่างสม่ำเสมอ  ในทุกความสำเร็จของลูกค้าที่มีความมั่งคั่งอย่างยั่งยืน เป็นแรงผลักดันให้ SCB WEALTH  ไม่หยุดพัฒนา และมุ่งมั่นในการคัดสรรสิ่งที่ดีที่สุดด้านการลงทุนให้กับลูกค้า

โดยทั้ง 3 รางวัล ที่ได้รับ 2  ปีซ้อน ได้ผ่านการคัดเลือกจากคณะกรรมการ Asian Private Banker  ที่ได้เห็นศักยภาพ ความมุ่งมั่น และทุ่มเทของทีม  SCB  WEALTH  ที่มีความโดดเด่นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินอย่างต่อเนื่อง  การนำเทคโนโลยีมาใช้ในแพลตฟอร์มต่างๆ  เพื่อยกระดับการให้บริการที่สามารถตอบโจทย์ด้านการลงทุนในทุกมิติและสร้างความมั่งคั่งอย่างยั่งยืนให้กับลูกค้าได้อย่างแท้จริง ประกอบด้วย  

1.รางวัล Best Domestic Private Bank – CIO Office  ได้สะท้อนถึงความเชี่ยวชาญอย่างมืออาชีพ ของทีม SCB CIO  ในการวิเคราะห์เจาะลึกมุมมองภาวะเศรษฐกิจและการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเป็นแนวทางให้นักลงทุนนำมาปรับกลยุทธ์การลงทุนของแต่ละบุคคล รวมทั้งการวางกลยุทธ์การจัดพอร์ตลงทุนแบบ Strategy Asset Allocation (SAA) และ Tactical Asset Allocation (TAA) ให้เหมาะสมกับทุกภาวะการลงทุน  โดยสามารถสร้างผลตอบแทนรวม 5 ปี (2018-2022) อยู่ที่ 13.92% สูงกว่าค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ที่ 10.21%  นอกจากนี้ การกระจายความเสี่ยงเป็นกุญแจสำคัญในการจัดสรรสินทรัพย์ ที่ควรให้มีความหลากหลาย  นอกจากสินทรัพย์  ประเภท หุ้น ตราสารหนี้  ทอง  น้ำมัน  และอสังหาริมทรัพย์ แล้ว ควรจะมีสินทรัพย์ ประเภท  Private Asset  และ Structure  Products  ไว้ในพอร์ต  ตามความเสี่ยงที่แต่ละบุคคลสามารถรับได้  เพื่อเพิ่มเสถียรภาพของพอร์ต ลดความผันผวน  และมีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีอย่างสม่ำเสมอ

2.รางวัล Best Domestic Private Bank – Discretionary Portfolio Management    โดยเน้นการจัดพอร์ตที่ออกแบบเฉพาะรายบุคคล และปรับสัดส่วนสินทรัพย์ลงทุนตามสภาวะตลาดที่เหมาะสม มีรูปแบบการลงทุนให้เลือกอย่างหลากหลาย ครบทุกความต้องการของลูกค้า ทั้งแบบเน้นผลตอบแทน แบบควบคุมความเสี่ยง และแบบที่เหมาะสมสำหรับการลงทุนในทุกสภาวะตลาด 

3.รางวัล Best Domestic Private Bank – Digital Innovation and Services  ที่โดดเด่นในการเป็นDigital   Wealth Banking มีความเป็นเลิศด้านนวัตกรรมและแพลตฟอร์มอัจฉริยะ  โดยการนำ Data มาใช้วิเคราะห์ข้อมูลการลงทุนสำหรับวางแผนการลงทุน (Wealth Platform) หรือ wPlan ที่สามารถจัดพอร์ตการลงทุน โดยเน้นกลยุทธ์การจัดสรรสินทรัพย์ลงทุนที่ออกแบบเป็นพิเศษเฉพาะลูกค้าแต่ละราย (Personalized Asset Allocation)  เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ ยังมีทีมที่ปรึกษาทางการเงิน (RM) คอยดูแลและให้คำปรึกษาลูกค้าอย่างใกล้ชิด เป็น Hybrid Advisory ที่ยืดหยุ่นตามความต้องการของลูกค้า  มุ่งสู่การเป็น “Digital Wealth with Human Touch” ได้อย่างแท้จริง  

LATEST NEWS

SKR จัดทัพใหม่! ตั้ง “ปวีณา ชาญชนะโสภณ” นั่ง CFO มีผล 14 พ.ย. นี้

บมจ.ศิครินทร์ จัดทัพใหม่! บอร์ดไฟเขียวตั้ง “ปวีณา ชาญชนะโสภณ” มือทองด้านการเงิน-การบัญชีนั่งตำแหน่ง CFO แทน “เสนีย์กระจ่างศรี” มีผล 14 พฤศจิกายนนี้ ร่วมขับเคลื่อนองค์กรเติบโตอย่างยั่งยืน

SKR เปิดงบ 3Q/67 กวาดรายได้ 1,675 ลบ. ตั้งเป้ารายได้ทั้งปีทะลุ 6,200 ลบ. เน้นสถาบันการแพทย์เฉพาะทางโตเด่น

SKR เปิดเผยผลงาน Q3/67 รายได้รวม 1,675.19 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.95% จากการรักษาโรคยากซับซ้อนด้วยการผ่าตัดผ่านสถาบันการแพทย์เและศูนย์แพทย์เฉพาะทางด้านต่างๆ การเปิดให้บริการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน รวมถึงการตรวจสุขภาพผ่านโรงพยาบาลเคลื่อนที่ (Sikarin Connect) มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการเดินหน้าร่วมมือสำนักงานประกันสังคมตรวจเชื้อมะเร็งปากมดลูก พร้อมเปลี่ยนวิสัยทัศน์รองรับการขับเคลื่อนองค์กรตามแนวทาง ESG เริ่มโครงการ Sustainability in service มุ่งสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน

AIS ประกาศความสำเร็จขายหุ้นกู้เพื่อความยั่งยืน มูลค่ารวม 2.5 หมื่นล้านบาท

“บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (“บริษัท” หรือ “AIS”)  ขอขอบคุณนักลงทุนทุกท่านที่เชื่อมั่นและจองซื้อหุ้นกู้เพื่อความยั่งยืนที่บริษัทเสนอขายในครั้งนี้จำนวน 5 รุ่น ได้แก่ หุ้นกู้อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 2.54% ต่อปี หุ้นกู้อายุ 4 ปี ที่อัตราดอกเบี้ย 2.74% ต่อปี หุ้นกู้อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ย 2.76% ต่อปี หุ้นกู้อายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ย 2.92% ต่อปี และหุ้นกู้อายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.22% ต่อปี  โดยเปิดจองซื้อในระหว่างวันที่ 8 และ 11-12 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา ด้วยอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ที่ระดับ AAA(tha) จาก บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี  ส่งผลให้ยอดจองซื้อหุ้นกู้เต็มจำนวนตามเป้าหมาย 25,000 ล้านบาท

RELATED