“Smarthome” สมาร์ทโฮมยืนหนึ่งเครื่องใช้ไฟฟ้าสำหรับทุกครอบครัว

เมื่อพูดถึงแแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน เชื่อว่าใครหลายๆ คน คงจะนึกถึงแบรนด์ “Smarthome” เป็น 1 ในคำตอบในใจอย่างแน่นอน ด้วยจุดเด่นของสินค้าที่แข็งแรง ทนทาน ดีไซน์ทันสมัยและราคาที่สามารถเข้าถึงได้ วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับแบรนด์ “Smarthome” กันให้มากยิ่งขึ้น

“Smarthome (สมาร์ทโฮม) เป็นแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก รวมไปถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่ตอบสนองรูปแบบชีวิตแนวใหม่  โดยมีบริษัทสเต็ปฟอร์เวิร์ดกรุ๊ปจำกัด  เป็นผู้นำเข้าและจำหน่าย

มีผู้ก่อตั้งทั้งหมด 3 ท่านได้แก่คุณธวัช มานะวงค์ (Executive Director) , คุณวิศรุต ทวีรุจนะ (Managing Director) และคุณณัฐพล รอดชุม (Managing Director) ที่มีแนวคิดสร้างสรรค์ สำหรับสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก รวมไปถึงเครื่องใช้ ไฟฟ้าขนาดใหญ่ โดยมีวัตถุประสงค์ในการนำเสนอสินค้าที่ดี มีคุณภาพ เน้นรูปลักษณ์สวยงาม ในราคาที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้เข้ามาจัดจำหน่ายในประเทศไทย 

สินค้าของ “Smarthome” ครอบคลุมและหลากหลาย อาทิ หม้อทอดไร้น้ำมัน, เตาปิ้งย่าง, เครื่องปั่น, กระติกน้ำร้อน, เตาอบ, เตาแม่เหล็กไฟฟ้า, หม้อเอนกประสงค์,เครื่องฟอกอากาศ, เครื่องดูดฝุ่น, พัดลม, หม้อหุงข้าว, ตู้เย็น, เครื่องทำน้ำแข็ง และเครื่องทำแซนวิซ เป็นต้น  

มีช่องทางการจัดจำหน่ายกระจายอยู่ทั่วทั้งประเทศ ตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำ รวมถึงโมเดิร์นเทรด อาทิ Big-C , Lotus , Makro ,GO Wholesale, 7-Eleven และ CJ Express รวมถึงร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศไทยและตลาดอีคอมเมิร์ซ E-commerce เพื่อเข้าสู่ช่องทางออนไลน์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Lazada , Shopee , TikTok Shop และอื่นๆ เพื่อทำให้การซื้อสินค้ากลายเป็นเรื่องง่ายและสะดวกสบาย มากยิ่งขึ้น

จุดเด่นของสินค้า Smarthome คือ 1.มีคุณภาพตามมาตรฐานและผลิตภัณฑ์ต้องผ่านการตรวจสอบก่อนถึงมือลูกค้า 2.มีความทันสมัย สามารถ ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม ทุกวัย ในราคาที่เป็นมิตรและเข้าถึงได้สำหรับทุกคนอย่างแท้จริง ทำให้สามารถเลือกซื้อได้สะดวกและมั่นใจว่าสินค้ามีความคุ้มค่าที่สุด 3.มีการรับประกันที่ยาวนานถึง 3 ปี เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจ ในคุณภาพและประสิทธิภาพของสินค้า และ4.มีบริการหลังการขายที่พร้อมให้บริการลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าได้รับ ความสะดวกสบายและความพึงพอใจที่สุดในการใช้บริการ

ไม่เพียงเท่านี้ บริษัทยังมุ่งเน้นด้านบริการอย่างเต็มที่ โดยมีทีม After-Sales Service บริการหลังการขาย ให้คำปรึกษากับลูกค้าทุกท่าน ตั้งแต่วันจันทร์-วันอาทิตย์ตั้งแต่เวลา 08.30 น. – 18.00 น. (ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์) อีกทั้งเรายังมีรับประกันสินค้าถึง 3 ปี ให้กับตัวสินค้า นอกจากนี้เรายังให้ความสำคัญกับการให้ความรู้เกี่ยวกับสินค้า โดยเรามีพนักงานขายประจำอยู่ที่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำทุกสาขา เพื่อให้บริการข้อมูลแก่ลูกค้าอย่างเต็มที่

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯไม่เพียงแต่มุ่งหวังในผลกำไรเท่านั้น แต่ยังมุ่งเน้นที่จะมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือสังคมด้วยการดำเนินธุรกิจอย่างซื่อสัตย์ และเน้นให้ลูกค้าได้รับผลประโยชน์สูงสุดเป็นสำคัญ จึงไม่ลืมที่จะตอบแทนสังคม โดยมีโครงการ ซื้อ 1 ชิ้นปัน 1 บาท ที่ทำมาอย่างต่อเนื่องในทุกๆ ปี โดยทุกการซื้อสินค้าหนึ่งชิ้น เราจะร่วมสมทบทุนเพื่อนำเงินจำนวนนี้ ไปส่งมอบคืนสู่สังคม แบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลักๆ คือ 1.มอบทุนการศึกษาให้กับเด็กด้อยโอกาส รวมทั้งเด็กสัญชาติต่างๆ ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ และสร้างอาคารเรียนให้กับโรงเรียนที่ขาดแคลน 2.สนับสนุนหน่วยงานสาธารณสุขต่างๆที่ขาดแคลนอุปกรณ์ทางการแพทย์ 3.อุปถัมภ์ค้ำชูพระพุทธศาสนา เช่น การสร้างศาลาวัดเพื่อสั่งสอนหลักธรรม แก่ประชาชน และมอบทุนการศึกษาแก่สามเณรเพื่อสืบสานพระพุทธศาสนา

นับได้ว่าเป็นองค์กรคุณภาพที่ขับเคลื่อนธุรกิจอย่างยั่งยืน ใครไม่อยากตกเทรนด์สินค้าดี มีคุณภาพ ราคาจับต้องได้  สามารถเข้าไปดูรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.smart-home.co.th/ กันได้เลย!!!!

LATEST NEWS

SKR จัดทัพใหม่! ตั้ง “ปวีณา ชาญชนะโสภณ” นั่ง CFO มีผล 14 พ.ย. นี้

บมจ.ศิครินทร์ จัดทัพใหม่! บอร์ดไฟเขียวตั้ง “ปวีณา ชาญชนะโสภณ” มือทองด้านการเงิน-การบัญชีนั่งตำแหน่ง CFO แทน “เสนีย์กระจ่างศรี” มีผล 14 พฤศจิกายนนี้ ร่วมขับเคลื่อนองค์กรเติบโตอย่างยั่งยืน

SKR เปิดงบ 3Q/67 กวาดรายได้ 1,675 ลบ. ตั้งเป้ารายได้ทั้งปีทะลุ 6,200 ลบ. เน้นสถาบันการแพทย์เฉพาะทางโตเด่น

SKR เปิดเผยผลงาน Q3/67 รายได้รวม 1,675.19 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.95% จากการรักษาโรคยากซับซ้อนด้วยการผ่าตัดผ่านสถาบันการแพทย์เและศูนย์แพทย์เฉพาะทางด้านต่างๆ การเปิดให้บริการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน รวมถึงการตรวจสุขภาพผ่านโรงพยาบาลเคลื่อนที่ (Sikarin Connect) มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการเดินหน้าร่วมมือสำนักงานประกันสังคมตรวจเชื้อมะเร็งปากมดลูก พร้อมเปลี่ยนวิสัยทัศน์รองรับการขับเคลื่อนองค์กรตามแนวทาง ESG เริ่มโครงการ Sustainability in service มุ่งสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน

AIS ประกาศความสำเร็จขายหุ้นกู้เพื่อความยั่งยืน มูลค่ารวม 2.5 หมื่นล้านบาท

“บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (“บริษัท” หรือ “AIS”)  ขอขอบคุณนักลงทุนทุกท่านที่เชื่อมั่นและจองซื้อหุ้นกู้เพื่อความยั่งยืนที่บริษัทเสนอขายในครั้งนี้จำนวน 5 รุ่น ได้แก่ หุ้นกู้อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 2.54% ต่อปี หุ้นกู้อายุ 4 ปี ที่อัตราดอกเบี้ย 2.74% ต่อปี หุ้นกู้อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ย 2.76% ต่อปี หุ้นกู้อายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ย 2.92% ต่อปี และหุ้นกู้อายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.22% ต่อปี  โดยเปิดจองซื้อในระหว่างวันที่ 8 และ 11-12 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา ด้วยอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ที่ระดับ AAA(tha) จาก บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี  ส่งผลให้ยอดจองซื้อหุ้นกู้เต็มจำนวนตามเป้าหมาย 25,000 ล้านบาท

RELATED