ราคาหุ้นบริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้า Tesla ดิ่งมากกว่า 4% หลังจากประกาศผลดำเนินงานไตรมาสแรก มีกำไรสุทธิลดลง 24% เมื่อเทียบกับปีก่อน มาอยู่ที่ 2,510 ล้านดอลลาร์
Tesla แจ้งต่อผู้ถือหุ้นว่าปัจจัยที่ทำให้ตัวเลขกำไรลดลง คือ “การใช้กำลังการผลิตของโรงงานใหม่ที่ต่ำกว่าศักยภาพที่มีอยู่” รวมทั้งสัดส่วนกำไรที่ลดลง ราคาต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น ปัญหาโลจิสติกส์ ต้นทุนการประกันคุณภาพรถยนต์ และรายได้ที่ลดลงจากเครดิตการรักษาสภาพสิ่งแวดล้อม
อย่างไรก็ตาม รายได้จากแผนกรถยนต์ไฟฟ้าของ Tesla ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัท รวม 19,960 ล้านดอลลาร์ ในไตรมาสแรก เพิ่มขึ้น 18% จากปีก่อน ในขณะที่รายได้รวมของทั้งบริษัทเพิ่มขึ้น 24% เป็น 23,330 ล้านดอลลาร์
CEO อีลอน มัสต์ กล่าวย้ำถึง “สภาพสิ่งแวดล้อมทางด้านเศรษฐกิจมหภาคที่ไม่ชัดเจนได้กระทบต่อแผนการซื้อรถยนต์ของคนส่วนใหญ่”
เขาคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐในช่วง 12 เดือนข้างหน้า จะมีสภาพ “ที่คลุมเครือไม่สดใส” พร้อมกับเตือนว่า “ทุกครั้งที่เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ย มันเท่ากับการปรับขึ้นราคาของรถยนต์ด้วย และเมื่อไรที่สภาพเศรษฐกิจไม่มีความชัดเจน คนส่วนใหญ่จะเลื่อนการใช้จ่ายที่ต้องใช้เงินมาก เช่น การซื้อรถ”
เขากล่าวว่า “ในความเห็นของเรา การเน้นเพิ่มยอดขายและส่งมอบรถให้สูงขึ้น น่าจะเป็นสิ่งที่ถูกต้อง แทนที่จะไปลดการผลิตเพื่อปรับสัดส่วนกำไรให้สูงขึ้น” พร้อมกับเสริมว่า Tesla น่าจะสามารถปรับปรุงตัวเลขกำไรให้ดีขึ้นในเวลาต่อไปข้างหน้า โดยเพิ่มการใช้ระบบการผลิตที่ใช้หุ่นยนต์มากขึ้น”