TVH โชว์ 1H24 บริษัทลูกเสริฟ์ผลงานแกร่ง หนุนรายได้แตะ 3.55 พันลบ. กำไรสุทธิทะลุ 200 ลบ. ส่งซิกลุยพัฒนานวัตกรรมอัพทั้งปี 67 โตตามเป้า 10% 

TVH โชว์ผลงานครึ่งแรกปี 2567 รายได้สุทธิโตแตะ 3,555 ล้านบาทกำไรสุทธิ 205 ล้านบาทอานิสงค์บริษัทลูกประกันภัยไทยวิวัฒน์ทำผลงานโดดเด่นเบี้ยประกันภัยรับโต 3% สวนภาพรวมตลาดแตะ 3,533 ล้านบาทจากผลิตภัณฑ์ที่เข้าถึงพร้อมตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภคตรงจุดช่องทางขายครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมายแย้มแผนครึ่งปีหลังลุยพัฒนานวัตกรรมผ่านบริษัทลูกต่อเนื่องชูคอนเซ็ปต์ “Beyond Insurance” หนุนเบี้ยประกันภัยรับรวมทั้งปี 2567 โตตามเป้า 10% ทะลุ 8,000 ล้านบาท 

นายจีรพันธ์ อัศวะธนกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยวิวัฒน์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TVH ประกอบธุรกิจหลักโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ซึ่งมีธุรกิจประกันภัยเป็นธุรกิจหลัก ประกอบด้วย ธุรกิจประกันวินาศภัยในประเทศไทย, ธุรกิจประกันภัยในต่างประเทศ และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจประกันภัย เปิดเผยภาพรวมผลการดำเนินงานครึ่งแรกปี 2567 ว่า บริษัทฯมีรายได้สุทธิเพิ่มขึ้นแตะ 3,555 ล้านบาท กำไรสุทธิ 205 ล้านบาท จากการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของบริษัทลูก ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ ที่ยังต้องเผชิญปัจจัยเสี่ยงหลายด้าน ทั้งหนี้ภาคครัวเรือนที่สูงกว่า 90% ของจีดีพี กำลังซื้อผู้บริโภคชะลอลง ภาคการเงินการธนาคารเพิ่มความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ   

โดยบริษัท ประกันภัยไทยวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน) กวาดเบี้ยประกันภัยไปกว่า 3,533 ล้านบาท เติบโต 3% เทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งสูงกว่าภาพรวมตลาดประกันภัยที่เติบโตต่ำกว่า 1% ตามการเติบโตที่ดีของทั้งกลุ่ม Motor และ Non-Motor จากการมีผลิตภัณฑ์ที่เข้าถึง และตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างตรงจุด โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ชูโรงอย่าง “ประกันรถเปิดปิด” ประกันรถยนต์ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค ประหยัดค่าเบี้ยสูงสุดถึง 80% ขณะที่ประกันรถยนต์รายปี ชั้น 1 ค่าเบี้ยเริ่มต้นเพียง 7,500 บาท 

นอกจากนี้ “ประกันภัยไทยวิวัฒน์” ยังมีผลิตภัณฑ์ประกันภัยสำหรับรถ EV ออกมารองรับความต้องการในตลาดที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม ล่าสุดบริษัทฯได้พิจารณาปรับเบี้ยและทุนประกันให้สอดรับสถานการณ์ในตลาด เพื่อป้องกันความเสี่ยงการประกันภัยที่อาจจะเกิดขึ้นไว้อย่างเหมาะสม ขณะเดียวกัน ยังได้มีการปรับรูปแบบการขายให้แบ่งจ่ายเบี้ยเป็นรายเดือน อาทิ ประกันสุขภาพ Active Health ควบคู่ไปกับการเดินหน้าขยายช่องทางการขาย อาทิ ธนาคาร, โมเดิร์น เทรด และแพลตฟอร์ม อีคอมเมิร์ช เป็นต้น เพื่อให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย

นายจีรพันธ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ค่าใช้จ่ายรวมจากการรับประกันภัย และการดำเนินงานเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากช่วงเดียวกันปีก่อนอยู่ที่ 3,297 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าใช้จ่ายการรับประกันภัยราว 2,785 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอยู่ที่ 512 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังมีรายได้จากการลงทุนสุทธิเพิ่มขึ้นกว่า 36% อยู่ที่ราว 90 ล้านบาท 

สำหรับแนวโน้มการเติบโตของ “ไทยวิวัฒน์ โฮลดิ้ง” ช่วงไตรมาส 3/67 ต่อเนื่องไตรมาส 4/67 ยังมีสัญญาณที่ดีตามการเติบโตของธุรกิจหลักอย่างธุรกิจประกันภัย ภายใต้การขับเคลื่อนของบริษัทลูกอย่าง “ประกันภัยไทยวิวัฒน์” ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Beyond Insurance” ที่ต้องการมอบประสบการณ์ที่ดี ที่มากกว่าประกันภัย ด้วยการเดินหน้าคิดค้นพัฒนานวัตกรรม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทั้งงานด้านผลิตภัณฑ์และบริการอย่างต่อเนื่อง อาทิ การยกระดับ Thaivivat  แอปพลิเคชัน ให้ตอบโจทย์และเป็นมากกว่าแอปพลิเคชั่นประกันภัยทั่วไป 

ควบคู่ไปกับการนำ AI มาช่วยให้การทำงานด้านการบริการสินไหมมีความรวดเร็ว ลดข้อผิดพลาด และเพิ่มความสะดวกให้กับผู้ใช้บริการมากยิ่งขึ้น รวมถึงการนำมาใช้ในขั้นตอนการปฏิบัติงาน เพื่อเพิ่มศักยภาพของบุคลากร นอกจากนี้ยังพิจารณาเร่งขยายสิทธิประโยชน์ร่วมกับพาร์ทเนอร์ต่างๆ ให้ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งสุขภาพ, บันเทิง และท่องเที่ยว ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคอย่างตรงจุด สามารถเก็บคะแนน TVI Well Point  เพื่อเป็นส่วนลดเบี้ยประกันสุขภาพ Active Health และเดินหน้าขยายบริการที่หลากหลาย อาทิ บริการ Telemedicine ให้คำปรึกษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญผ่านออนไลน์, บริการ Thaivivat Parking จองที่จอดรถศูนย์การค้าชั้นนำ, บริการ Car wash, บริการค้นหาอู่ศูนย์ซ่อมและโรงพยาบาลใกล้เคียง รวมถึงบริการค้นหาสถานีหรือจุดชาร์จสำหรับรถ EV ทั่วประเทศ เป็นต้น  เพื่อมอบประสบการณ์ที่มากกว่าประกันภัยให้กับลูกค้า ผลักดันเบี้ยประกันภัยรับรวมปี 2567 เติบโตตามเป้า 10% ทะลุ 8,000 ล้านบาท 

LATEST NEWS

“ไทยพาณิชย์” พร้อมเปิดจองซื้อกองทุน VAYU1 วันที่ 16 – 20 กันยายนนี้

ไทยพาณิชย์ ในฐานะหนึ่งในตัวแทนการจำหน่ายหน่วยลงทุนกองทุนรวมวายุภักษ์หนึ่ง ประเภท ก. พร้อมเดินหน้าเปิดให้ประชาชนทั่วไปและนักลงทุนรายย่อย สามารถจองซื้อหน่วยลงทุนได้ระหว่างวันที่ 16 – 20 กันยายน 2567  ผ่านสาขาและแอปพลิเคชัน SCB Easy เงินลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท  ระยะเวลาการลงทุนเบื้องต้น 10 ปี 

SCB WEALTH ดึง Baker&Mckenzie ดูแลด้านกฎหมายสินทรัพย์มรดกให้กลุ่มลูกค้าเวลล์

ดร.ยรรยง ไทยเจริญ (ที่2 ซ้าย) รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ Wealth ธนาคารไทยพาณิชย์ พร้อมด้วยนายคมกฤช เกียรติดุริยกุล (ที่2 ขวา) กรรมการและที่ปรึกษากฎหมาย ด้านการเงินการธนาคาร การวางแผนธุรกิจครอบครัวและตลาดทุน บริษัท เบเคอร์ แอนด์ แม็คเค็นซี่ จำกัด ให้ความร่วมมือกับ SCB WEALTH

“Smarthome” สมาร์ทโฮมยืนหนึ่งเครื่องใช้ไฟฟ้าสำหรับทุกครอบครัว

เมื่อพูดถึงแแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน เชื่อว่าใครหลายๆ คน คงจะนึกถึงแบรนด์ “Smarthome” เป็น 1 ในคำตอบในใจอย่างแน่นอน ด้วยจุดเด่นของสินค้าที่แข็งแรง ทนทาน ดีไซน์ทันสมัยและราคาที่สามารถเข้าถึงได้ วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับแบรนด์ “Smarthome” กันให้มากยิ่งขึ้น

RELATED