“กองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง” เปิดระดม 1-1.5 แสนล้านบาท ฟื้นตลาดหุ้นไทย

กองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง’ เตรียมเดินหน้าเสนอขายหน่วยลงทุนประเภท ก. มูลค่ารวมไม่เกิน 1 แสน – 1.5 แสนล้านบาท เพิ่มทางเลือกในการออมแก่ประชาชน สนับสนุนการพัฒนาตลาดทุนของประเทศ

“กองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง” เตรียมเดินหน้าเสนอขายหน่วยลงทุนประเภท ก. แก่นักลงทุนทั่วไป มูลค่ารวมไม่เกิน 1 แสน -1.5 แสนล้านบาท คาดเริ่มเสนอขายหน่วยลงทุนประเภท ก. และนำเข้าจดทะเบียนเพื่อซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ภายในไตรมาส 3 ปีนี้ เพิ่มทางเลือกในการออมแก่ประชาชน สนับสนุนการพัฒนาตลาดทุนของประเทศ ด้าน ก.ล.ต. ชูมาตรการสนับสนุนการลงทุนในกองทุนรวม ส่งเสริมให้ตลาดทุนไทยเติบโตอย่างมั่นคงและโปร่งใส ส่วนตลาดหลักทรัพย์ฯ คาดกองทุนฯ จะช่วยเสริมสร้างบรรยากาศการลงทุน และสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนไทยและต่างชาติเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยเพิ่มขึ้น

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า สถานการณ์ตลาดทุนไทยในช่วงที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่าค่อนข้างผันผวน เนื่องจากกระแสเงินทุนต่างชาติที่ไหลออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ จากปัจจัยความไม่แน่นอนต่างๆ เช่น ความผันผวนของตลาดการเงินโลก และปัญหาหนี้ครัวเรือนภายในประเทศ เป็นต้น โดยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาพบว่านักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย รวมมูลค่ากว่า 5.3 แสนล้านบาท ขณะที่มูลค่าการซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์ฯ รวมถึงมูลค่าการระดมทุนของตลาดตราสารทุนและตราสารหนี้มีอัตราที่ชะลอตัวลง สะท้อนภาพรวมของเศรษฐกิจที่ไม่สามารถฟื้นตัวได้อย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตาม ประชาชนและนักลงทุนสถาบันภายในประเทศ ยังคงมีสภาพคล่องส่วนเกินและมองหาการลงทุนที่สามารถให้ผลตอบแทนที่ดีและมีความมั่นคงในระยะยาว

กระทรวงการคลังได้วางแนวทางในการระดมทุนผ่าน “กองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง” (“กองทุนฯ”) ประมาณ 1 แสน – 1.5 แสนล้านบาท เพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างบรรยากาศการลงทุน โดยคาดว่าจะเริ่มดำเนินการเสนอขายหน่วยลงทุนประเภท ก. และนำหน่วยลงทุนดังกล่าวเข้าจดทะเบียนเพื่อซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ภายในไตรมาส 3 ของปีนี้ ทั้งนี้แนวทางการลงทุนของกองทุนฯ จะเน้นการลงทุนในบริษัทที่มีผลตอบแทนที่ดีมีความมั่นคงในระยะยาว ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน และมีการกำกับดูแลกิจการที่ดี คาดว่าการระดมทุนของกองทุนฯ ในครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มทางในเลือกการออมและการลงทุนให้กับประชาชนและนักลงทุนทั่วไปในภาวะที่อัตราดอกเบี้ยเงินฝากอยู่ในระดับต่ำ และส่งเสริมให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ผ่านกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง ซึ่งจะช่วยสร้างแรงกระตุ้นในการลงทุน และเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศต่อการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ

“รัฐบาลได้ออกมาตรการสนับสนุนตลาดทุนอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่มาตรการ Thai ESG เพื่อส่งเสริมการออมและการลงทุนระยะยาวในกิจการที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล และล่าสุดได้เตรียมการเสนอขายหน่วยลงทุนประเภท ก. ของกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง นอกจากนี้กระทรวงการคลัง อยู่ระหว่างพิจารณาออกมาตรการสนับสนุนตลาดทุนเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่องในปีนี้ ” นายพิชัย กล่าว

นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการกำกับการดำเนินงานของกองทุนรวมวายุภักษ์ กล่าวว่า ในวันนี้ คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้รับทราบเกี่ยวกับการเสนอขายหน่วยลงทุนประเภท ก. ของกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง เป็นที่เรียบร้อย ทั้งนี้ กองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง เป็นกองทุนรวมประเภทกองทุนปิดจัดตั้งขึ้นในปี 2546 และได้มีมติแปรสภาพเป็นกองทุนเปิดเมื่อปี 2556 โดยมีวัตถุประสงค์หลักที่จะบริหารจัดการหลักทรัพย์ที่รัฐถือครองให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อสร้างผลตอบแทนอย่างยั่งยืนในระยะยาวและมั่นคง ลงทุนในกิจการที่มีความจำเป็นและเป็นประโยชน์ต่อประเทศในเชิงเศรษฐกิจและจำเป็นต้องการการส่งเสริมจากภาครัฐ ตลอดจนส่งเสริมการพัฒนาตลาดเงินและตลาดทุนของประเทศ และเพิ่มทางเลือกในการออมและการลงทุนให้แก่ประชาชน โดยกองทุนฯ มีหน่วยลงทุน 2 ประเภทคือหน่วยลงทุนประเภท ก. และประเภท ข. ปัจจุบันกองทุนฯ มีเพียงหน่วยลงทุนประเภท ข. และกำลังจะระดมทุนโดยเสนอขายหน่วยลงทุนประเภท ก. ต่อผู้ลงทุนทั่วไป

หน่วยลงทุนประเภท ก. ซึ่งมีระยะเวลาการลงทุนเบื้องต้นของหน่วยลงทุนประเภท ก. ที่ 10 ปี จะเสนอขายแก่นักลงทุนทั่วไปและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยผู้ถือหน่วยลงทุนประเภท ก. จะได้รับเงินปันผลในแต่ละปีตามอัตราผลตอบแทนที่เกิดขึ้นจริงของกองทุนฯ แต่ไม่น้อยกว่าอัตราผลตอบแทนขั้นต่ำ และไม่เกินกว่าอัตราผลตอบแทนขั้นสูง ทั้งนี้อัตราผลตอบแทนขั้นต่ำและขั้นสูงดังกล่าวจะเป็นอัตราคงที่ตลอด 10 ปี นอกจากนี้ กองทุนฯ จะมีกลไกคุ้มครองเงินลงทุนของหน่วยลงทุนประเภท ก. โดยจะมีสิทธิได้รับชำระคืนเงินลงทุน

ตามแนวทางการชำระคืนเงินลงทุนที่มีลักษณะเป็น water fall และมีการกำหนดสัดส่วนมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนฯ ต่อเงินลงทุนของหน่วยลงทุนประเภท ก. และมาตรการต่างๆ เพื่อคุ้มครองผลประโยชน์ของผู้ถือหน่วยลงทุนประเภท ก. หากสัดส่วนดังกล่าวลดลง

ขณะที่แนวทางการลงทุนของกองทุนฯ นั้น จะเข้าลงทุนในหลักทรัพย์ทั้งแบบเชิงรุก (Active Investment) และแบบเชิงรับ (Passive Investment) โดยส่วนใหญ่จะลงทุนในตราสารทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เน้นการลงทุนในบริษัทที่มีผลตอบแทนที่ดี มีความมั่นคงในระยะยาว ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน และมีการกำกับดูแลกิจการที่ดี ในขั้นตอนถัดไปจะมีการสำรวจความเห็นของนักลงทุนสถาบันเพื่อกำหนดอัตราผลตอบแทนขั้นต่ำ และอัตราผลตอบแทนขั้นสูง กำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการดำเนินการเสนอขายหน่วยลงทุน ช่องทางการเสนอขายหน่วยลงทุน และสัดส่วนการเสนอขายต่อผู้ลงทุนแต่ละประเภท นอกจากนี้ กองทุนฯ ต้องประสานงานกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และหน่วยงานต่างๆ ในการดำเนินการในเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวข้องให้เป็นไปตามกฎระเบียบ รวมทั้งจะมีการนำเสนอข้อมูลต่อนักลงทุนประเภทต่างๆ โดยเฉพาะนักลงทุนรายย่อย เพื่อให้การระดมทุนครั้งนี้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี

ปัจจุบันกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิกว่า 300,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 15 ภายหลังแปรสภาพกองทุนเมื่อปี 2556 โดยมีการลงทุนส่วนใหญ่ในตราสารทุนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และบางส่วนลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้น ซึ่งในช่วงที่ผ่านมากระทรวงการคลังได้รับเงินปันผลจากกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง กว่า 40,000 ล้านบาท โดยกองทุนฯ มีบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการกองทุน

ศ.ดร.พรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และ ตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า ก.ล.ต. มีบทบาทสำคัญในการดูแลและส่งเสริมให้ตลาดทุนไทยเติบโตอย่างมั่นคงมีประสิทธิภาพ ยั่งยืน และเป็นประโยชน์ต่อทุกภาคส่วน สนับสนุนการลงทุนในกองทุนรวม มีมาตรการให้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนอย่างโปร่งใส เพื่อให้ผู้ลงทุนสามารถตัดสินใจลงทุนได้อย่างรอบคอบ และมีการตรวจสอบและติดตามการดำเนินงานอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการทุจริตและการกระทำที่ไม่เป็นธรรม ตลอดจนให้ความรู้เกี่ยวกับการลงทุนในกองทุนรวม เพื่อให้ผู้ลงทุนทั่วไปเข้าใจและตัดสินใจลงทุนได้อย่างถูกต้อง โดย ก.ล.ต.พร้อมให้การสนับสนุน กองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง เพื่อให้สามารถระดมทุนจากนักลงทุนทั่วไป ผ่านการเสนอขายหน่วยลงทุนประเภท ก. ได้ตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ รวมถึงทบทวนกฎเกณฑ์ต่างๆ ให้เหมาะสมสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ในการระดมทุนของกองทุนฯ

นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ต.ล.ท.) กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ เชื่อมั่นว่า ด้วยนโยบายของกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง ในการเข้าลงทุนในหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะช่วยเสริมสร้างบรรยากาศการลงทุน และสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนไทยและต่างชาติ เข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยเพิ่มขึ้น

LATEST NEWS

SKR จัดทัพใหม่! ตั้ง “ปวีณา ชาญชนะโสภณ” นั่ง CFO มีผล 14 พ.ย. นี้

บมจ.ศิครินทร์ จัดทัพใหม่! บอร์ดไฟเขียวตั้ง “ปวีณา ชาญชนะโสภณ” มือทองด้านการเงิน-การบัญชีนั่งตำแหน่ง CFO แทน “เสนีย์กระจ่างศรี” มีผล 14 พฤศจิกายนนี้ ร่วมขับเคลื่อนองค์กรเติบโตอย่างยั่งยืน

SKR เปิดงบ 3Q/67 กวาดรายได้ 1,675 ลบ. ตั้งเป้ารายได้ทั้งปีทะลุ 6,200 ลบ. เน้นสถาบันการแพทย์เฉพาะทางโตเด่น

SKR เปิดเผยผลงาน Q3/67 รายได้รวม 1,675.19 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.95% จากการรักษาโรคยากซับซ้อนด้วยการผ่าตัดผ่านสถาบันการแพทย์เและศูนย์แพทย์เฉพาะทางด้านต่างๆ การเปิดให้บริการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน รวมถึงการตรวจสุขภาพผ่านโรงพยาบาลเคลื่อนที่ (Sikarin Connect) มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการเดินหน้าร่วมมือสำนักงานประกันสังคมตรวจเชื้อมะเร็งปากมดลูก พร้อมเปลี่ยนวิสัยทัศน์รองรับการขับเคลื่อนองค์กรตามแนวทาง ESG เริ่มโครงการ Sustainability in service มุ่งสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน

AIS ประกาศความสำเร็จขายหุ้นกู้เพื่อความยั่งยืน มูลค่ารวม 2.5 หมื่นล้านบาท

“บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (“บริษัท” หรือ “AIS”)  ขอขอบคุณนักลงทุนทุกท่านที่เชื่อมั่นและจองซื้อหุ้นกู้เพื่อความยั่งยืนที่บริษัทเสนอขายในครั้งนี้จำนวน 5 รุ่น ได้แก่ หุ้นกู้อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 2.54% ต่อปี หุ้นกู้อายุ 4 ปี ที่อัตราดอกเบี้ย 2.74% ต่อปี หุ้นกู้อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ย 2.76% ต่อปี หุ้นกู้อายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ย 2.92% ต่อปี และหุ้นกู้อายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.22% ต่อปี  โดยเปิดจองซื้อในระหว่างวันที่ 8 และ 11-12 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา ด้วยอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ที่ระดับ AAA(tha) จาก บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี  ส่งผลให้ยอดจองซื้อหุ้นกู้เต็มจำนวนตามเป้าหมาย 25,000 ล้านบาท

RELATED