กูรูการลงทุน วอร์เรน บัฟเฟตต์ กล่าวว่า ความตึงเครียดด้านภูมิศาสตร์การเมือง คือ “ปัจจัยหนึ่ง” ที่เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจของ Berkshire Hathaway ที่ขายหุ้นส่วนใหญ่ที่ถืออยู่ในบริษัท TSMC ผู้ผลิตแผ่นชิปยักษ์ใหญ่ของไต้หวัน
คุณบัฟเฟตต์ ฉายา “โหรแห่งโอมาฮา” วัย 92 ปี เปิดเผยกับสื่อ Nikkei ว่า TSMC เป็นบริษัทที่มีการบริหารจัดการที่ดี แต่ Berkshire มี “ที่อื่นที่ดีกว่า” ที่จะลงทุน
เมื่อเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา Berkshire เปิดเผยว่า ตนได้ขาย 86% ของหุ้นที่ถืออยู่ใน TSMC ซึ่ง Berkshire ได้เคยใช้เงิน 4,100 ล้านดอลลาร์ ซื้อเพียงไม่กี่เดือนก่อนหน้านั้น
การขายหุ้น TSMC ออกไปอย่างรวดเร็วดูจะค่อนข้างน่าแปลกใจ เพราะมหาเศรษฐีผู้นี้มีชื่อเสียงในด้านการเก็งกำไรหุ้นในระยะยาว
รอยเตอร์ รายงานว่า ขนาดเงินลงทุนในกรณีนี้สะท้อนว่าการซื้อหุ้น TSMC ก่อนหน้านี้คงจะเป็นการตัดสินใจของคุณบัฟเฟตต์เอง แทนที่จะทำโดยผู้บริหารพอร์ตคนหนึ่งของเขา
TSMC ซึ่งถือว่าเป็นสมบัติที่มีค่าของชาติอย่างหนึ่งของไต้หวัน เป็นซัพพลายเออร์เซมิคอนดักเตอร์ให้กับบริษัทเทคยักษ์ใหญ่อย่าง Apple และ Qualcomm
TSMC เป็นผู้ผลิตแผ่นชิปเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่และทันสมัยที่สุดในโลก โดยชิ้นส่วนที่ผลิตโดย TSMC เป็นส่วนประกอบสำคัญของคอมพิวเตอร์ทุกประเภทตั้งแต่สมาร์ทโฟนไปจนถึงเครื่องซักผ้า
TSMC ถือเป็นบริษัทที่มีความสำคัญอย่างมากต่อเศรษฐกิจโลก รวมทั้งต่อจีนด้วย โดยจีนถือว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน ถึงแม้จะไม่เคยปกครองเกาะนี้มาก่อน
TSMC ในบางครั้งถือว่าทำหน้าที่เสมือนหนึ่งเป็น “เกราะซิลิคอน” สำหรับป้องกันการบุกรุกทางทหารจากจีน
การที่ TSMC ตั้งอยู่บนเกาะไต้หวันถือเป็นแรงจูงใจที่สำคัญให้กับชาติตะวันตกในการป้องกันไต้หวันจากความพยายามใดๆ ของจีนที่อาจใช้กำลังทางทหารบุกรุกดินแดนแห่งนี้
ในสัปดาห์นี้ ความตึงเครียดมีเพิ่มขึ้นมากในน่านน้ำรอบๆ ช่องแคบไต้หวัน หลังจากที่หน่วยกำลังรบของจีนทำการซ้อมรบโดยจำลองปฏิบัติการโจมตี “เป้าหมายที่ละเอียดแม่นยำ” บนเกาะไต้หวัน