World Bank ปรับลดการเติบโตจีน และประเทศในแทบเอเชีย เซ่นภาวะเศรษฐกิจซบเซา

ธนาคารโลก(World Bank) ปรับประมาณการการเติบโต ของประเทศในแถบเอเชียตะวันออก อ้างเหตุผลว่าจีนกำลังซบเซา การค้าขายก็ชะลอลง และดอกเบี้ยที่ยังคงค้างอยู่ในระดับสูง

World Bank คาดว่าเศรษฐกิจของประเทศในแถบเอเชียตะวันออกจะเติบโต 5% ในปีนี้ ลดลงจาก 5.1% ที่ประมาณการณ์ไว้ในเดือน เมษายนที่ผ่านมา และสำหรับในปี 2024 ธนาคารโลกคาดว่า จะโตเหลือเพียง 4.5% จาก 4.8% ที่คาดไว้ตั้งแต่ 6 เดือนที่ผ่านมา

สำหรับประเทศจีน ถูกปรับคาดการณ์ลงด้วยสองเหตุผลหลักคือ ปัญหาปัจจัยเชิงโครงสร้างในระยะยาว ที่ยกระดับหนี้ของจีน และ วิกฤติภาคอสังหาริมทรัพย์ ทำให้ประมาณการณ์ปีนี้ยังคงยึดค่าเดิมไว้ ที่ 5.1% แต่ไปปรับลดลงในปีหน้า เหลือ 4.4% จาก 4.8% ที่ประมาณไว้

อัตราเร่งในการเติบโตของเศรษฐกิจของประเทศในแถบเอเชียค่อนข้างเชื่องช้าแล้ว หลังจากฟื้นมาจากการล็อคดาวน์ในปี 2020

ผลเสียต่อการมีหนี้สูงขึ้นเรื่อยๆ

World Bank ปักธง 3 ประเทศที่มีทั้งหนี้ภาครัฐบาลและภาคเอกชนสูง คือ จีน ไทย และ เวียดนาม
การมีหนี้ภาครัฐสูงทำให้การลงทุนภาครัฐและภาคเอกชนถูกจำกัดด้วย

และยิ่งหนี้สูงขึ้น ก็จะยิ่งทำให้ดอกเบี้ยสูงขึ้น ซึ่งก็จะไปทำให้ต้นทุนการกู้ยืมของภาคเอกชนเพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน

ถ้าเกิดว่า หนี้ภาครัฐต่อ Gdp เพิ่มขึ้น 10% จะส่งผลให้การเติบโตของภาคการลงทุน(Investment) ลดลง 1.2%

เช่นเดียวกับ ถ้าเกิดว่า หนี้ภาคเอกชนต่อ Gdp เพิ่มขึ้น 10% ก็จะส่งผลให้ ภาคการลงทุนเติบโตลดลง 1.1%

นอกจากนั้น หนี้ครัวเรือนของ ประเทศจีน มาเลเซีย และ ไทย สูงกว่าประเทศตลาดเกิดใหม่อื่นๆ

หนี้ครัวเรือนสูง ส่งผลเชิงลบกับการบริโภค เนื่องจากรายได้จะถูกนำไปจ่ายหนี้บริการ นำไปสู่การใช้จ่ายลดลง (Spending)

ถ้าเกิดว่าหนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้น 10% การเติบโตของภาคการบริโภค(Consumption) ก็จะลดลงไป 0.4%

World Bank บอกอีกว่า การใช้จ่ายภาคครัวเรือนยังต่ำกว่าก่อนเกิดโรคระบาด ในเอเชียแปซิฟิค

ในประเทศจีน แนวโน้มยอดค้าปลีกเบาบางกว่าก่อนเกิดวิกฤติโรคระบาดเนื่องจากการปรับตัวลงมาของราคาที่อยู่อาศัย การเพิ่มขึ้นที่ช้าลงของรายได้ผู้อยู่อาศัย การเก็บออมฉุกเฉินมากขึ้น และ หนี้ครัวเรือน หรือไม่ว่าจะเป็นปัจจัยภายนอกอื่นๆอย่างสังคมสูงวัยเป็นต้น

ที่มา : World Bank downgrades developing East Asia growth forecast (cnbc.com)

LATEST NEWS

NER พร้อมรับศักราชใหม่ปี 2568 เติบโตอย่างยั่งยืน

นายชูวิทย์ จึงธนสมบูรณ์ (ที่ 5 จากซ้าย) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ “NER”  ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายยางแผ่นรมควัน ยางแท่ง และยางผสม เพื่อจำหน่ายไปยังผู้ผลิตในอุตสาหกรรมยานยนต์ กลุ่มผู้ค้าคนกลาง ทั้งในและต่างประเทศ

ORI โชว์ Backlog แกร่ง 47,329 ล้านบาท รอรับรู้รายได้ต่อเนื่อง 5 ปี พร้อมเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่ 10 – 11, 13 กุมภาพันธ์ 2568 นี้ให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป ชูอัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.50 -5.15% ต่อปี

บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI พร้อมเสนอขายหุ้นกู้ให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไปและผู้ลงทุนสถาบันจำนวน 3 รุ่นอัตราดอกเบี้ย 4.50 – 5.15% จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือนเสนอขายระหว่างวันที่ 10 – 11 และวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 ผ่าน 9 สถาบันการเงินได้แก่ธ.ซีไอเอ็มบีไทยบล. เอเซียพลัสบล. ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) บล.บลูเบลล์บล.โกลเบล็ก บล.ยูโอบีเคย์เฮียน บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) บล.พาย และบล.เมอร์ชั่นพาร์ทเนอร์ พร้อมโชว์ Backlog ในมือ 47,329 ล้านบาท รอรับรู้สร้างรายได้ต่อเนื่อง 5 ปี เตรียมโอนกรรมสิทธิ์โครงการคอนโดก่อสร้างแล้วเสร็จใหม่ปี 2568 เพิ่มอีก 13 โครงการมูลค่าโครงการรวม 17,180 ล้านบาท มีแบ็คล็อกเฉลี่ยแล้วกว่า 70%

RELATED